30 ตุลาคม 2554

ทุเรียนแก้โรคผิวหนัง

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล
พอเอ่ยถึงทุเรียน สามีเราบอกว่าถ้าเค้าต้องกินทุเรียน  เค้าขอกินถุงเท้าเหม็นๆของเค้าดีกว่า  กลิ่นหอมกว่าเยอะ  ง่ะ... หมดคำบรรยายจริงๆ  อะไรมันจะเหม็นขนาดนั้นเชียวรึ  เราว่ากลิ่นมันนี่หอมสุดๆ  

สาวๆหลายคนที่ชอบกินทุเรียน เวลาได้กลิ่นทุเรียนจะเหมือนโดนสะกด  แบบว่าอยากกินใจจะขาดแต่ห่วงสวยกลัวอ้วน  เดินไปดมกลิ่นใกล้ๆก็ยังดีวะ  อ่ะใครเป็นแบบนี้ยกมือขึ้น  ก็อยากจะบอกว่า คุณขาอย่าไปห่วงมันมากเลยสังขารเนี่ย ถึงเวลาเหี่ยวมันก็เหี่ยวมันก็ยาน  ดึงอย่างไร  ฉีดอย่างไรมันก็อยู่ได้ไม่นาน เชื่อเราเหอะ  ปลงๆซะมั่ง 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล
อ่ะมาเข้าเรื่องทุเรียนกันต่อ  เขียนออกนอกเรื่องมากเดี๋ยวคนอ่านด่า  อิอิ  มาที่เนื้อทุเรียนหวานๆ นุ่มๆ  โอ้ย..แค่นึกก็ต่อมน้ำลายแตก  เผอิญมันเป็นของชอบอ่ะนะ  อ่ะๆ.....มาเขียนต่อ  ถึงไหนแล้วล่ะ  

อ่อ..เนื้อทุเรียนพอกินเข้าไปจะทำให้เกิดความร้อน  มันก็เลยช่วยแก้โรคผืวหนังยังไงล่ะ  ใครเป็นหนอง เป็นฝี รีบไปหามากิน  รับรองฝีและหนองแห้งไวกว่ากินยาซะอีก  แถมได้ของแถมเพราะมันจะไปเชิญคุณพยาธิออกไปจากกายสังขารคุณด้วย

ส่วนเปลือกคนโบราณเค้าเอาไปแช่ในน้ำปูนใส  ใช้ล้างแผลที่มันเกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง  แต่ที่บ้านย่าเราเค้าเอาไปเผาในเตาถ่าน แล้วก็เอามาบดให้มันเป็นผง ผสมกันน้ำมันมะพร้าว เอาไว้พอกหางหมู  เอ้ยไม่ใช่  อ่ะล้อเล่น  เอาไว้พอกคางทูมอ่ะจ้า   

แต่เราชอบวิธีของป้าสะใภ้เราจัง พับผ่าสิ   ป้าสะใภ้เราเค้าเอาเปลือกทุเรียนไปเผาไล่ยุง  วันไหนลุงกลับบ้านช้านิดหน่อย ก็จะเอาเปลือกทุเรียนมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว  ป้าสะใภ้บอกว่าเอาไว้ตบยุงบนหัวลุง  ฮ่า ฮ่า  ส่วนลุงก็นั่งกินข้าวไป เสียวสันหลังไปด้วย  ไม่รู้กลัวยุงกัด รึว่ากลัวโดนตบด้วยเปลือกทุเรียน  เอิ๊ก เอิ๊ก

สุดท้ายรากทุเรียนกับต้นมัน ยังเอาไปเป็นยารักษาไข้หวัดกับท้องร่วงได้อีก  แต่ขอแนะนำว่าถ้าคุณเป็นไข้หวัด ได้โปรดไปหาสมุนไพรอย่างอื่นกินเหอะ  ไม่ต้องลงทุนโค่นต้นทุเรียนนะจ๊ะ 

ไม่มีความคิดเห็น: