ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล |
เคยมั้ยที่คุณไปนั่งใกล้ใคร แล้วคนๆนั้นเค้ามีกลิ่นแรงมากๆๆๆ โดยเฉพาะตอนขึ้นรถไฟฟ้า หรือรถเมล์ที่คนแน่นๆเนี่ย อื้อหือ...สุดจะบรรยาย
ตอนเรายังเด็กๆ เราเห็นป้าเราเอาสารส้มมาทาใต้รักแร้ทุกวัน มีอยู่วันแอบตกใจตอนที่เห็นป้าเอาสารส้มมาแกว่งน้ำในโอ่ง ป้าบอกให้สิ่งสกปรกมันตกตะกอน ลงไปนอนก้นโอ่ง ตอนนั้นเราแอบเคืองป้า ไม่ยอมล้างหน้าด้วยน้ำโอ่งนั้นไปหลายวัน เพราะจำได้ว่าป้าเราเค้าชอบเอาสารส้มทารักแร้ทุกวัน
ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล |
ป้าก็บอกว่ากับเราว่า สารส้มมันละก้อนกันไปดูดิ ว่าก้อนในห้องน้ำมันยังอยู่รึป่าว และก้อนที่โอ่งมันยังอยู่มั้ย เราก็เดินไปดู เออ..จริงด้วยคนละก้อน โธ่...โง่มาซะตั้งหลายวันเลยku
แล้วแกก็บรรยายสรรพคุณสารส้มให้เราฟังว่า สารส้มยังดับกลิ่นเท้าได้ด้วย แถมเอาไปดองผักก็ได้ ผักจะกรอบอร่อย ป้าบอกว่าน้ำในโอ่งที่แกว่งสารส้ม ป้าชอบเอามาแช่พริกสด จะทำให้เก็บพริกไว้ได้นานหลายวัน เอาน้ำสารส้มมาล้างปลาจะไม่เหม็นคาวปลา และล้างเมือกมันออกง่าย เอามาซักผ้าจะช่วยจำกัดคราบผงซักฟอกให้หมดไม่ติดเสื้อผ้า
ตอนแรกเราคิดว่าสารส้มมีใช้เฉพาะเมืองไทยนะ แต่ป่าวเลย ที่ฝรั่งเศสเพื่อนเราที่เป็นฝรั่ง มันก็ใช้สารส้มทารักแร้กันหลายคน เราเคยเอามาขาย ตอนกลับไปเที่ยวเมืองไทย ขนสารส้มกลับมาหลายกิโล พอเอามาถึง เพื่อนมันบอกมรึงอย่าเสียเวลา ถ้าไม่มาจากร้านขายยาของประเทศku คนที่นี่เค้าก็ไม่ซื้อของมรึง อีกอย่างนะ เดี๋ยวนี้เค้าไม่ใช้กันแล้ว มันไม่มีกลิ่น สู้โรลออนหอมๆไม่ได้ แล้วก็จริงอย่างที่มันพูด สารส้มชุดนั้นทุกวันนี้ยังอยู่เลย ขายไม่ได้จริงๆ เอาให้มันฟรีๆมันยังเอาไปทิ้งซะเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น