23 ตุลาคม 2554

ทำแท้ง

บทความนี้ขอเขียนเรื่องทำแท้งหน่อยเหอะ  ว่าจะไม่เขียนเรื่องนี้แล้วนะ  เห็นว่ามีคนเขียนไว้มากแล้ว แต่เอาซะหน่อย  เพราะรู้สึกว่าคนที่คิดจะทำแท้งมีเพิ่มขึ้นทุกวัน  ที่เขียนไม่ได้มาเขียนด่าใคร  ไม่ได้มาเขียนตำหนิใคร และไม่ได้เขียนเรื่องเวร เรื่องกรรม อะไรทั้งนั้น  ไม่ต้องรีบปิดหน้าบล็อกนี้หนีซะกันอ่านนะจ๊ะ  ตามมาอ่านให้จบ

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา  ลูกสาวของลุง ซึ่งเรารักเหมือนพี่สาวที่เกิดจากท้องเดียวกัน เค้าโทรมาบอกว่าน้องสาวเราท้องอีกแล้ว  เราก็เลยโทรไปหาน้องสาว ถามมันว่าท้องเหรอ  น้องบอก...อืมท้อง  พูดแบบไม่ค่อยเต็มเสียงเพราะกลัวเราด่า  ช่วงนั้นน้องสาวกับแฟนกำลังจะไปกันไม่รอด  เริ่มถึงจุดแตกหัก  แต่น้องดันมาท้อง

เราถามว่าแล้วพ่อเด็กมันว่าไง  น้องบอกว่าไม่ได้ว่าอะไรสักคำ  เฉยอย่างเดียว  ไม่ได้สนใจที่จะถามเรื่องลูกเลย  เราเลยถามต่อเรื่องพ่อแม่ ว่าบอกเค้าหรือยัง  น้องมันบอกว่ายัง ไม่กล้าบอก  เราเลยบอกน้องมัน ว่าถ้างั้นเอางี้ โทรไปบอกเค้าเลย  และไปฝากท้องซะอย่าไปทำแท้งล่ะ  ใครไม่เลี้ยงช่างมัน หลานคนเดียวkuเลี้ยงได้   น้องเราเงียบแต่เราได้ยินเสียงมันร้องให้เบาๆ  คงกลัวเราได้ยิน

วันต่อมาเราโทรไปอีก  ถามน้องว่าบอกผู้ใหญ่เค้าหรือยัง  มันบอกว่าบอกแล้ว  เค้าบอกให้ทำแท้งจะเอาไว้ทำไม  อ่าว......เป็นเรื่องเลยคราวนี้   เราเลยโทรไปหาพ่อแม่ลุงป้าทั้งหลายด้วยตัวเอง  ถามเค้าว่าให้มันทำแท้งทำไม  เค้าตอบมาว่าลูกคนเดียวมันยังเลี้ยงไม่รอด    และถ้ามีคนที่สองอีกมันจะทำยังไง   เราก็เลยพูดตัดบทไปว่าถ้ามันเลี้ยงไม่ได้เราจะเอามาเลี้ยงเอง  ทุกคนก็เงียบ  แต่เรามารู้ว่าเค้ายังมีโทรไปกล่อมน้องมันเป็นระยะ  ให้ทำแท้ง 

ช่วงนั้นเราเองก็โทรไปหาน้องบ่อยมาก  แทบทุกวัน กลัวมันโดนกล่อมแล้วจะใจอ่อน  แต่โชคดีที่น้องเรามันกล้าตัดสินใจด้วยตัวมันเอง  มันบอกเราว่าจะเอาลูกไว้เพราะได้กำลังใจจากเรา  จากพี่สาว และจากพี่ๆที่ทำงาน  พอคิดที่จะเอาลูกไว้ มันก็ไปฝากท้องที่โรงพยาบาล  ผลตรวจเลือดออกมาว่าน้องเราเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี  เราก็บอกว่าให้ตรวจให้อีกครั้ง  พาแฟนมันตรวจด้วย ใจแอบห่วงถึงหลานในท้องมัน 

พี่สาวตัดสินใจให้น้องเรามาอยู่บ้านเดียวกับเค้า  เพื่อที่จะได้ดูแลได้อย่างใกล้ชิด ส่วนแฟนน้องสาวนะเหรอ  พอน้องท้อง แฟนมันก็เริ่มไม่กลับบ้าน  ติดสาว  เที่ยวกลางคืน  ติดพนัน  และในที่สุดก็ติดยา  อะไรที่คนดีเค้าไม่ทำ  มันทำหมด  งานการเริ่มไม่ทำ  นอนอย่างเดียวให้น้องเราทำงานเลี้ยงมัน 

พอเริ่มติดยา มันก็เริ่มใช้เงินมากขึ้น  จนเงินเก็บไม่เหลือ  แถมไปกู้เงินมาเล่นยา  เอาชื่อเมียไปค้ำ แล้วตามมาด้วยการเป็นคนขายยาซะเอง  เงินไม่พอหมุน  มันก็ใช้วิธีขโมยทองที่พี่สาวเราสะสมไว้เอาไปขาย  พี่สาวเราจับได้  ก็มาถามเราว่าจะเอายังไงกับน้องเขยตัวแสบ

เราก็สงสารน้องสาว เพราะคนท้องมันก็อยากมีแฟนมันอยู่ใกล้ๆ  แต่มาคิดดูแล้วถ้าให้มันอยู่น้องเรามีหวังแย่แน่  กลัวมันมาทำร้ายน้องทำร้ายหลาน เลยบอกพี่สาวว่าให้เวลามันกลับตัวใหม่  ถ้ามันยังไม่สำนึกก็ไล่มันออกจากบ้าน ถ้ามันไม่ไปก็ลากคอมันเค้าคุก  ส่วนน้องสาวต้องดูให้ดี  อย่าให้มันพาไปด้วย

หลังจากที่แฟนน้องมันออกจากบ้านพี่สาวไป  น้องสาวเราก็ใช้ชีวิตตามปกติ  แฟนมันโทรมาหาตลอด  แต่ไม่เคยถามหาลูกในท้องเลย  มันโทรมาขอเงินน้องสาวเรา  มันบอกน้องเราว่าตอนนี้มันบวชอยู่  ขี้เกียจตื่นมาบิณฑบาตรมาก  พอเรารู้เรื่องเราจากปากน้องสาวก็พูดไม่ออกเหมือนกัน  แต่เราคิดว่าน้องเรามันคงจะแอบส่งให้แฟนมันบ้างแหละ  คนมันเคยอยู่ด้วยกันมาก็คงอดไม่ได้ที่จะช่วยเหลือกัน 

พอถึงวันคลอด น้องเรายังทำงานอยู่เลย แล้วก็ปวดท้อง พี่สาวพาไปส่งโรงพยาบาล และเราก็ได้รับโทรศัพย์บอกว่าได้หลานสาว  ตอนนี้เจ้าตัวเล็กอายุจะครบสองขวบแล้ว  หน้าตาน่ารัก  ซนได้ใจ  ปากดีซะด้วย  พ่อแม่ป้าและคนที่เคยบอกว่าให้น้องเราไปทำแท้ง  พอเห็นหน้าหลาน ก็หลงหลานไปตามๆกัน  แย่งกันเลี้ยงอีกต่างหาก  พ่อก็บอกหลานku  แม่เราก็บอกหลานku  น้องเราพอเห็นพ่อแม่รักหลานมันก็สบายใจ


ส่วนพ่อเด็กมันไม่เคยโผล่มาดูลูกมันเลยตั้งแต่คลอด  แต่โทรมาขอเงินเป็นระยะ  ในที่สุดน้องเราก็คงคิดได้ ว่าติดต่อด้วยก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา  เลยตัดใจเปลี่ยนเบอร์โทร  และย้ายออกไปอยู่กับแม่

เจ้าตัวเล็กโตขึ้นมาด้วยความรักจากทุกคนในบ้าน  ถึงจะไม่มีพ่อแต่ก็ไม่เคยขาดความอบอุ่น  จะเอาอะไรยายหามาให้หมด  ไปไหนก็เอาไปด้วยตลอด 

คุณเห็นมั้ยว่าปัญหาทุกอย่างมันมีทางแก้ไข เพียงแต่ต้องใช้สติในการคิดแก้ปัญหา อย่าใช้แต่อารมณ์ในการตัดสินใจ  ขนาดพ่อแม่เราบอกให้น้องไปทำแท้งแท้ๆ  แต่พอน้องไม่ทำ  พ่อแม่เราเค้าก็ไม่ได้โกรธอะไรน้อง  นี่แหละคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีใครโกรธลูกได้จริงๆ  มีแต่จะดุด่าให้ลูกคิดได้  แต่ใจทั้งรักทั้งห่วงลูก  ยิ่งเค้าได้เห็นหน้าหลาน กลับแย่งกันเลี้ยงซะอีก  

ใครที่คิดจะทำแท้งตอนนี้  หรือมีเพื่อนที่คิดจะทำแท้งอยู่  ก็ขอให้เอาเรื่องของน้องสาวเราเป็นตัวอย่างในการตัดสินใจละกันนะ  ใช้สติคิด  อย่าใช้อารมณ์ชั่ววูป  ถ้าไม่รู้จะไปปรึกษาใคร  เรายินดีให้คำปรึกษา  ฝากแค่นี้แหละ 

ไม่มีความคิดเห็น: