30 ตุลาคม 2554

ฟักทองไทยต้านโรค

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล
เราเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบกินแกงหมูใส่ฟักทอง  ป้าทำให้กินสมัยเด็กๆ  ทุกวันนี้ก็มาทำกินเอง แต่ฟักทองที่นี่เนื้อมันไม่เหมือนดับฟักทองบ้านเรา  ของบ้านเราอร่อยกว่าเยอะเลย  นอกจากเนื้อแล้วนะ  ยอดฟักทองกับใบของมัน เราก็เอามาแกงส้ม  หรือผัดน้ำมันหอยไฟแดงจิ้มน้ำพริกกะปิก็อร่อยไปอีกแบบ  
ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล


เปลือกและเนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และ เบต้าแคโรทีน มันจะช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ และยังต้านความแก่ ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา
 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล
ใบอ่อนและดอก มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ

เมล็ดฟักทอก มีแป้งเยอะ มีฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน คิวเคอร์บิติน ซึ่ง มีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืด
และก็ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และน้ำมันจากเมล็ดฟักทอง  ก็ช่วยบำรุงและก็บำรุงประสาทด้วยหละ มันยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ ขึ้น และช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ


รากฟักทอง อันนี้เราไม่เคยกิน  แค่รู้มาว่าถ้าเอามาต้มไว้ดื่มแก้อาการไอได้ และบำรุงร่างกาย ถอนพิษของฝิ่น

เยื่อกลางผล ที่ส่วนมากเวลาพวกเราผ่าฟักทองจะเอาส่วนนี้โยนลงถังขยะกันซะหมด  รู้มั้ยละน่ะว่าถ้าคุณเอามันมาพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด อักเสบได้ดีเลยหละคุณเอ้ย

ไม่มีความคิดเห็น: