21 ตุลาคม 2554

ตะลิงปลิงฟอกเลือด

พี่คนไทยเค้ากลับไปเที่ยวที่เมืองไทย ก็ยังหอบหิ้วเอาน้ำปลาหวานมาฝากจากกรุงเทพ  แต่ทุกวันนี้ได้แต่นั่งมองกระปุกน้ำปลาหวาน เลยนึกถึงตะลิงปลิง กับมะม่วง เพราะผลมีรสเปรี้ยวเหมือนกันแต่อร่อยคนละแบบ เอาลูกอ่อนมากินกับกะปิ น้ำปลาหวาน เกลือ หรือมาทำส้มตำตะลิงปลิง ยิ่งแซบเข้าไปอีก  นึกถึงแล้วต่อมน้ำลายแตก

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

บางคนเค้าก็เอาความเปรี้ยวจากผลของมันมาใส่ในแกงส้ม ต้มยำ แต่เรายังไม่เคยทำสักที  เอามาแช่อิ่มก็ได้ อร่อยไปอีกแบบ หรือจะเอามาทำน้ำผลไม้ก็ดี เพราะมันให้แคลอรีต่ำ มีวิตามินเอสูง


นอกจากผลส่วนอื่นๆของมันยังมีประโยชน์เหมือนกัน  มาขยับมานั่งตรงนี้  เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง  เริ่มจากราก มันแก้พิษร้อนใน กระหายน้ำ ฝาดสมาน บำรุงกระเพาะอาหาร แก้โลหิตออกตามกระเพาะอาหาร ลำไส้ ดับพิษร้อนของไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้คัน แก้คางทูม แก้ไขข้ออักเสบ รักษาสิว รักษาซิลิส บรรเทาโรคเก๊าท์ บรรเทาการอักเสบของลำไส้ใหญ่


ตามต่อมาด้วยใบ ยังใช้พอกแก้คัน ใช้ภายในโดยนำมาต้มดื่มรักษาอาการอักเสบของลำไส้ใหญ่ รักษาโรคติดเชื้อซิฟิลิส แก้ไขข้ออักเสบ รักษาคางทูม รักษาสิว 

ส่วนดอก นำมาชงเป็นชา สรรพคุณแก้ไอ


และพระเอกคือผล สรรพคุณเจริญอาหาร บำรุงกระเพาะอาหาร ฝาดสมานและลดไข้ แก้เสมหะเหนียว ฟอกโลหิต ยาบำรุงแก้ปวดมดลูก แก้ไอ บรรเทาโรดริดสีดวงทวาร แก้ลักปิดลักเปิดอีกต่างหาก  


ประเทศไทยเรานี่อุดมไปด้วยของดีจริงๆ  อยู่ที่ไหนก็ไม่อุ่นใจเท่าประเทศไทยบ้านเราเน๊ะ  เกิดมาเป็นคนไทย  เราถือว่าเราไม่เสียชาติเกิดแล้วหละ 

ไม่มีความคิดเห็น: