17 ตุลาคม 2554

ฟอกสีฟันขาว

เมื่อตอนที่มีการฟอกสีฟันช่วงแรกๆ  เราก็เอากับเค้าด้วย ไปที่คลีนิคแถวพระรามสี่ ไม่บอกมากเดี๋ยวเดี๋ยวเค้าขาดรายได้

พอไปถึงเจอผู้ช่วยรึแม่บ้านไม่แน่ใจมาถามว่าจะทำอะไร  เราก็บอกฟอกสีฟัน  จะถามกลับว่าที่นี่ฟอกแบบไหน ยิงเลเซอร์หรือน้ำยา  ที่ถามน่ะไม่รู้เรื่องหรอก แต่ถามให้ดูดีไว้ก่อน  เค้าจะได้คิดว่าเราศึกษาข้อมูลมาดี  โกร่งราคาเราไม่ได้ไง  แต่เปล่าเล้ยคุณเอ้ย... ผิดคาด

หมอบอกนี่คุณรู้มั้ย ผมสั่งเครื่องนี้มาจากต่างประเทศนะครับคุณ ส่งตรงจากฝรั่งเศส  ค่ารักษาเลยสูงเป็นธรรมดาครับแต่ถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชนแน่   เราก็ฟัง  มองเครื่องมือหมอ  นึกใจใน แล้วทำไมเวลา ku ไปหาหมอฟันที่ฝรั่งเศสเค้าไม่มีแบบนี้นี่หว่า  คิดมันในใจคนเดียวนี่แหละ  ไม่เสี่ยงที่พูด เค้าอยู่หลายคน นับแล้วหลายเท้าอยู่เหมือนกัน  เสียวสันหลัง  

ฟอกฟันยังไม่ทันเสร็จ  หมอบอกฟันคุณต้องอุดหลายที่เลยนะทำเลยดีกว่าครับจะได้เจ็บทีเดียว  น่าน...นึกในใจรอบสอง ku เพิ่งจะอุดฟันก่อนที่จะบินลงมาเมืองไทยนี่กว่า  สงสัยหมอที่ฝรั่งเศสทำไม่หมดมั้ง  คิดเสร็จบอกหมอ  พยักหน้าบอกหมอ  แต่พูดไม่ได้  น้ำยาฟอกสีฟันคาปากอยู่ 

ผ่านไปเกือนสองชั่วโมง หมดไปเกือบหมื่น รึหมื่นกว่านี่แหละ  เงินสดมีไปไม่กี่พัน  หมอบอกไม่เป็นไรหันไปสั่งแม่บ้าน  เอ้ยผู้ช่วยหมอ ให้เดินตามเราไปกดเงินที่ตู้  ก่อนจ่ายขอดูฟันก่อน ผลงานหมอออกมา  เล่นเอาใจเสีย  นึกในใจรอบสาม โดนแล้ว ku เต็มๆ ฟันไม่ขาวขึ้นเลย  เหลืองเหมือนเดิม  แต่ไม่พูดอะไร  เดินออกมาอย่างปลงๆ   นึกว่าชดใช้กรรมเก่าละกัน  เมื่อชาติก่อนเราคงไปหลอกหมอคนนั้นไว้เหมือนกัน  

กลับถึงโรงแรมไปแปรงฟันเป็นการด่วน เพราะหมอไม่ได้ใส่ถุงมือตลอดเวลาการทำฟันให้เรา  แอบสงสัย  นึกย้อนไป เอ...เมื่อกี้หมอเดินไปเข้าห้องน้ำมาบ้างป่าววะ

เป็นการบอกเล่ากันไปนะ  ไม่มีอะไรหรอก ไม่ได้โกรธหมอด้วย  เรื่องมันผ่านไปแล้ว  คิดไปเสียเวลาแถมขาดทุนชีวิตอีกต่างหาก  แค่ที่เอามาเขียนเพราะ กำลังเพิ่มจำนวนบทความ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ google จะมาตรวจสอบบล็อก  เผื่อเค้าเมตตาจะให้เราติดโฆษณาของเค้าบ้างน่ะดิ  ก็อย่างที่บอก  ตั้งแต่กระทู้แรกนั่นแหละ  อยากรู้ว่าบอกอะไรก็ไปอ่านเอาเองนะจ๊ะ   ไปแระ  บายๆ   

ไม่มีความคิดเห็น: