มะเม่ากำจัดรังแค

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ป้าสะใภ้เราเป็นคนอีสาน  แกจะไม่ใช้แชมพูสระผมที่มีขายกันตามร้านค้าทั่วไป  แกจะเอาใบและก็ผลของของมะเม่านี่แหละมาปั่นให้น้ำมันออก  แล้วเก็บใส่ขวดไว้  ใช้แทนแชมพู  แกบอกว่ากำจัดรังแคได้ดีทีเดียว  แถมยังแก้ปวดศีรษะอีกด้วย 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

บางครั้งเราก็เห็นแกเอามาต้มน้ำ เอาไปกินเอาไปอาบอีกนะ  ป้าบอกว่าดีกว่ากินยาหมอสมัยใหม่  มันช่วยรักษาอาการซีดเหลือง โลหิตจาง เลือดไหลเวียนไม่ดี แก้โรคผิวหนัง ท้องบวม  แก้ช่องท้องบวม ใช้ผสมกับน้ำอาบแก้อาการไข้ ต้นและราก รสจืด บำรุงไต ขับปัสสาวะแก้มดลูกพิการและตกขาว

ที่ขาดไม่ได้คือเวลาลุงไปเก็บเห็ดถอบมาจากป่า  ป้าจะเอาใบมะเม่านี่แหละใส่ไปในแกงคั่วเห็ดถอบ  อื้อหือ........คุณเอ้ย   อร่อยโครตๆ

กวางตุ้งบำรุงสายตา

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

กวางตุ้งคงเป็นผักที่หาง่ายที่สุดแล้วมั้งสำหรับคนไกลบ้านอย่างเรา  ไม่ว่าฤดูไหนก็มีขาย  ซื้อมาแต่ละครั้งก็ไม่พ้นเมนูสิ้นคิดอ่ะ  ประเภทผัดกวางตุ้ง  หรือไม่ก็ต้มจิ้มน้ำพริกกะปิ ปลาทู มันทำง่ายและไวดี

เมื่อก่อนไม่ชอบกินเท่าไร  แต่พอรู้ว่าผักกวางตุ้ง มีวิตามินซี มีแคลเซียมสูง มีเบต้าแคโรทีน ตั้งแต่นั้นเจ้ากวางตุ้งก็เป็นเมนูประจำบ้านเราไปเลย  เพราะมันช่วยบำรุงสายตา และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายอ่ะ  แถมยังมีไขมันต่ำมากด้วยอันนี้สามีชอบ  และยังให้กากใยอาหารทำให้ถ่ายง่าย  ที่สำคัญมากมาย คือมันราคาถูกที่สุดในบรรดาผักที่มาจากไทย  อิอิ  เค้าเรียกว่าประหยัดแต่ได้คุณค่าสารอาหารเพียบ

ทำไมผู้ใหญ่ทำได้

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

มีอยู่วันหนึ่งพาลูกไปเล่นที่สนามเด็กเล่น  วันนั้นคนเยอะมาก  ทั้งเด็กเล็กชั้นอนุบาล  และเด็กปฐมต้นมาเล่นกันมากมาย  โดยที่แต่ละคนก็จะมีผู้ปกครองของตัวเองนั่งเฝ้าอยู่ตามม้านั่ง  ด้วยความที่เด็กมันเยอะ  ก็แย่งกันเล่นเป็นเรื่องธรรมดา  


เราก็ไม่ได้สนใจใคร มัวแต่มองดูลูกตัวเอง  สักพักได้สินเสียงกรี๊ด และเสียงร้องให้  เสียงคนโวยวาย  เราก็หันไปตามเสียง  ในใจน่ะ นึกว่ามีเด็กตกลงมาจากเครื่องเล่น  แต่พอหันไปมอง เห็นผู้ปกครองเด็กกำลังซัดกันนัวเนีย  สามรุมหนึ่ง  เด็กๆที่กำลังเล่นกันอยู่  ทุกคนหยุดหมดเลย  หันไปมองผู้ใหญ่ตีกัน ลูกสาวของผู้ปกครองคนที่ถูกรุมนั่งร้องให้ใหญ่เลย  แกตะโกนออกมาว่า "อย่าทำแม่หนู  อย่าแกล้งแม่หนู"  

สักพัก พวกนั้นเค้าเลิกตีกัน แต่ไม่ใช่เพราะเด็กขอร้องนะ  เพราะว่ามีคนตะโกนขึ้นมาอย่างดังเลย ว่าถ้าไม่หยุดเค้าจะโทรเรียกตำรวจ  ได้ผลวุ้ย...หยุดตีแต่เปลี่ยนมาชี้หน้าด่ากันต่อ  ผู้ปกครองคนอื่นเริ่มพาลูกตัวเองกลับบ้านทันที  

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

 เราเองก็พาลูกกลับบ้านเหมือนกัน  วันต่อมา เราก็พาลูกไปสนามเด็กเล่นนี้เหมือนเดิม  คราวนี้ลูกเราไปตีกับเพื่อนเค้า  เรากับแม่เด็กคนนั้นก็เข้าไปห้าม  เราถามลูกว่าตีกันทำไมเนี่ย  เพื่อนของลูกเราบอกทีเมื่อวานผู้ใหญ่ยังตีกันได้เลย  ทำไมพอเค้าตีกัน  จะต้องโดนผู้ใหญ่ดุด้วย  แบบนี้ไม่ยุติธรรม  


เรากับแม่เด็กคนนั้นมองหน้ากัน   แล้วก็ต้องจับเจ้าตัวแสบสองคนมานั่ง เพื่อที่จะอธิบายให้พวกเค้าเข้าใจ ทำให้นึกถึงผู้หลักผู้ใหญ่บางคนในบ้านเรานะ  ที่หาเรื่องกันทุกวัน  ชิงดีชิงเด่นกันทุกวัน  โยนขี้ใส่กันทุกวัน  แต่พอเด็กช่างกล ยกพวกตีกัน  ก็มารุมด่าเด็ก  โจมตีเด็ก ปัดโธ่.....เด็กมันได้ตัวอย่างมาจากใครล่ะจ๊ะ   

ถ้าไม่อยากให้อนาคตของชาติล่มจม  คุณๆทั้งหลายก็ต้องเลิกกัด  อุ่ย..ไม่ใช่  ต้องเลิกทะเลาะกันก่อน  ok  จบดีกว่าku  เขียนไปมากกว่านี้มีหวังโดนด่าแน่  ไปล่ะ

ไปปีนต้นงิ้วกันมั้ย

พ่อของปู่เรา เค้าเอาต้นงิ้วมาปลูกไว้ที่หน้าบ้าน  ตั้งแต่ปู่ยังไม่เกิด ปู่เคยเล่าว่า  ครั้งหนึ่งปู่นอกใจย่า  พอพ่อของปู่รู้   พ่อของปู่ก็ใช้ให้ปู่ไปปีนต้นงิ้ว  เพื่อจะเก็บดอกงิ้ว เอาไปทำขนมจีนน้ำเงี้ยว  แต่ปู่ก็ปีนขึ้นไม่ได้  พ่อของปู่ก็บอกให้ปู่ขึ้นไปให้ได้  ปู่เล่าว่าพอปีนหนามมันแทงมือ  แทงขา แทงตัว แทงแขนเลือดไหลทันที ปวดแสบปวดร้อนไปหมดทั้งตัว  ปู่บอกว่าเจ็บมาก  จนทนไม่ไหว

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

พ่อของปู่ก็บอกว่าเนี่ยมันยังน้อยไป  ขึ้นไม่ได้เอ็งยังมีโอกาสได้ลงมา  แต่ถ้าเอ็งยังทำตัวเลวๆแบบนี้อยู่  ตายไปเอ็งจะเจอต้นใหญ่กว่านี้  จะเจ็บกว่านี้  ต่อให้ร้องทรมารแค่ไหนเอ็งก็จะไม่ได้ลง  จำใส่หัวเอ็งเอาไว้  และพ่อของปู่ก็ให้ปู่ลงมาจากต้นงิ้ว  ปู่บอกว่าตั้งแต่นั้นมา ปู่เลิกกับเมียน้อยไปเลย  กลับตัวเป็นคนดี  ตั้งหน้าตั้งตาถือศีล  ภาวนา เราเห็นปู่เราถือศีล ภาวนาจนกระทั้งวินาทีสุดท้ายที่ปู่ตาย

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

อ่ะมาเข้าเรื่องกันต่อ  ออกนอกเรื่องมากเดี๋ยวจะยาว  คนเชียงรายเค้าจะเอาดอกงิ้วนี่แหละ มาทำขนมจีนน้ำเงี้ยว  ขอบอกว่าอร่อยสุดยอด ส่วนคนจังหวัดอื่นๆเค้าจะไม่ใส่ดอกงิ้วลงไปหรอก  เพราะมันเก็บยาก และอีกอย่าง ความหมายไม่เป็นมงคล  แต่หารู้ไม่นะ  ว่าคุณพลาดของดีไปเต็มๆ 

ปู่เคยบอกเปลือกต้นงิ้ว มันช่วยบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการบวม จากการกระแทก รักษากระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง บรรเทาอาการท้องเดิน แก้บิด อัมพาต เอ็นอักเสบ 

ส่วนตรงดอกงิ้วนอกจากจะเอามาทำกับข้าวอร่อยแล้วนะ  มันก็ยังช่วยห้ามเลือด รักษาแผล ฝีหนอง บรรเทาอาการท้องเดิน บิดมูกเลือด ช่วยขับปัสสาวะ ส่วนรากหรือเปลือกรากของต้นงิ้วมันก็ใช้สมานแผล ห้ามเลือด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการฟกช้ำบวมจากการกระแทก รากต้นงิ้วเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดีนะขอบอก ช่วยให้อาเจียน 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ผลอ่อนต้นงิ้วก็ใช้รักษาแผลเรื้อรังในไต เมล็ดของมันก็ยังใช้เป็นยาร่วมกับพิมเสนรักษาโรคหนองในเรื้อรัง เกสรดอกงิ้วก็เอาไปตากแห้ง ใช้เป็นส่วนประกอบในการทำแกงแค เห็นมั้ยว่าต้นงิ้วต้นหนึ่ง  มันรักษาทั้งกายทั้งใจเลย  สุดยอดจริงๆ

ทำดีหลังกล้อง

ขอขอบคุณภาพประกอบจากคุณ arttojung สมาชิก thaiseoboard

เมื่อครู่นี้เข้าไปดูในบอร์ดแห่งหนึ่ง  เห็นรูปนี้อ่ะ  แต่ไม่เคยเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับไหนลงข่าวแกเลย แต่แกก็ยังช่วยคนต่อไป  แบบนี้เค้าเรียกว่าปิดทองหลังพระใช่ป่ะ  ทำดีอย่างเงียบๆ  ช่วยคนไปเรื่อยๆ  ไม่เป็นข่าวไม่เป็นไรkuไม่สน ใครไม่รู้kuรู้  คุณทำได้แบบนี้เราก็ขอเขียนชม 


และไม่ใช่เฉพาะชายคนนี้หรอกที่ทำเรื่องดีๆแต่ไม่มีคนสนใจ  ไม่มีคนรู้  ยังมีอีกหลายท่านเลย ที่แอบปิดทองหลังพระอยู่เงียบๆแต่ก็ช่วยเต็มที่ เราขอให้คุณทำความดีต่อไปนะจ๊ะ   ใครมาด่า ใครมาว่าก็ให้คิดซะว่าเค้ามาตักเตือน  คุณก็ขอบคุณเค้าซะ  พวกเค้าอุตส่าห์สละเวลามาสนใจคุณนะน่ะ  และเอาคำพูดของพวกเค้าเหล่านั้นมาปรับปรุงตัวเอง   ฝากไว้แค่นี้แหละ  

สุสานฝังกาย

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

วันนี้ที่บ้านเราอากาศดี  แดดแรง ไม่หนาวเหมือนเมื่อวันก่อนๆ แต่พอมองออกไปข้างนอก เห็นที่สุสานฟังศพของที่นี่  เห็นเจ้าหน้าที่ประจำของสุสาน  กำลังเตรียมขุดหลุม มีรถบะะทุกเล็กๆจอดอยู่ข้างๆ   คิดว่าวันนี้คงมีการฟังศพเพิ่มขึ้นมาอีกศพแล้วหละ

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

นี่ถ้าเป็นสมัยก่อน  เราคงหาม่านมาติดที่หน้าต่างไปแล้ว  เพราะไม่อยากเห็นอ่ะ  เห็นแล้วจิตมันชอบพาคิดไปในทางที่ไม่ดี  แต่พอได้มาปฏิบัติธรรม  เราว่าเราโชคดีนะที่พอเปิดหน้าต่างออกไป ก็เห็นสุสานฟังศพอยู่ตรงหน้าพอดี  เห็นการจาก  เห็นสังขารที่มันไม่ยั่งยืน  ต่อให้รักขนาดไหน  พอตายคนที่ว่าเค้ารักเราที่สุด ก็ยังรังเกียจร่างกายนั้นเคย  ญาติบางคนยืนซะอย่างไกล   เห็นแล้วก็ได้สติดีเหมือนกัน

หลวงพ่อกล้วย

 

ไปเจอคลิปนี้มา  เลยหิ้วเอามาฝาก เป็นพระธรรมคำสอนจากหลวงพ่อกล้วย อยากให้คุณๆได้ดูนะ  ไหนๆก็เข้ามาแล้ว  กดเข้ามาดูหน่อยเหอะ  

เครดิตจากคุณ jomyoodmo  คร้า ขอบคุณมากมาย  ใครสนใจเข้าไปตามลิ้งค์ได้เลยจากยูทูป

ว่าน มหากาฬ

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

หลายท่านเข้ามาอ่านบล็อกนี้แล้ว งง  บอกว่าตกลงมันจะเขียนเรื่องอะไรแน่วะ  ก็บอกแล้วไงจ๊ะว่าเราเขียนตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ  นึกอะไรออกก็เขียนมันไปเรื่อยๆ 

วันนี้จะแนะนำให้รู้จักว่านมหากาฬ เชื่อว่าคนกรุงเทพหลายคนไม่รู้จักแน่นอน  แต่เด็กบ้านนอกคอกนาอย่างเรา มีหรือที่จะไม่เคยเห็น ย่าเราปลูกเอาไว้เพียบ  ตรงไหนมีที่ว่าง พ่อกับย่าเราเอา ว่านมหากาฬไปปลูกแทรกไว้หมด  พ่อบอกว่าเอาใบสดๆของว่าน โขลกผสมกับเหล้า ใช้พอกฝี มันจะช่วยถอนพิษ  และก็บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน 

เรายังเคยเห็นพ่อเราเด็ดมาเคี้ยวบ่อยๆ  พอเราถามว่าเคี้ยวสดได้รึ  พ่อก็บอกว่า  อือ..มันช่วยดับพิษไข้  พิษร้อน พิษไข้เซื่องซึม กระสับกระส่าย แก้อักเสบด้วย  เห็นพ่อกินหน้าตาเฉย  เราก็เอามั่งดิ  นึกว่าอร่อย  เด็ดขึ้นมาเคี้ยวไปหนึ่งใบตามแบบพ่อ  อื้อหือ.....บ้วนทิ้งออกมาแทบไม่ทัน 

ไหลไปตามน้ำ

ตอนเฟสบุ๊คดังในไทยช่วงแรกๆ  เราก็มีกับเค้าเหมือนกัน เป็นเฟสบุ๊คเกี่ยวกับธรรมะทั้งดุ้นเลย  มีกัลยาณธรรมเยอะแยะ  มีอยู่ท่านหนึ่งที่เราเคยคุยด้วย  ก็คุยกันเรื่องการฝึกสมาธิอะไรพวกนี้แหละ  ตอนนั้นคิดว่าท่านคงเป็นพระ  ตัวท่านไม่ได้บอกนะ  แต่ท่านเรียกเราว่าโยม

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

โอ้ย..ประทับใจในคำสอน  ตามไปในเฟสบุ๊คท่านเลย  เผื่อจะได้อ่านคำสอนอื่นๆที่ท่านเขียนไว้อีก   พอคลิกเข้าไปดู  คำสอนอ่ะมีจริง  เยอะด้วยนะ  แต่ตาเราดันไปสะดุดตรงประโยชน์ที่ท่านพิมพ์ตอบน้องคนหนึ่ง  ว่ารักนะจุ๊บๆรู้ตัวป่าวเด็กโง่  อ่าว...อะไรวะเนี่ย  เมื่อกี้ยังเรียกku ว่าโยมอยู่เลย

ก็เลยถามไปว่าตกลงท่านเป็นคนธรรมดาหรือว่าเป็นพระกันแน่ ท่านตอบกลับมาว่า  ผมไม่ใช่พระ  เราก็เลยถามต่อว่าทำไมเมื่อกี้เรียกเราว่าโยมล่ะ  ท่านบอก  ผมก็ไหลตามน้ำไปเรื่อย  เจอคนประเภทไหนก็ต้องแสดงไปแบบนั้นแหละครับ คุณก็อย่าไปเชื่อคนง่ายดี๊  

เมี่ยงปลาช่อน

เมี่ยงปลาช่อน น่ากินมั้ย  หิวอ่ะดิ  อิอิ  เดี๋ยวบอกวิธีทำให้ ก่อนอื่นไปซื้อช่อนมาก่อน  ส่งมาให้เราสักตัวก็ได้ แบบว่าที่นี่มันไม่มีจะกิน  หาซื้อยากสุดๆ ต้องเข้าไปถึงปารีส 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

พอได้ปลามาแล้วก็บั้งซะทั้งสองด้าน  ตั้งกระทะร้อนๆ  แล้วเอาปลาลงไปทอดให้เหลืองแล้วตักมันขั้นมานอนพักไว้ก่อน  หากระดาษซับน้ำมันรองไว้ด้วย  ที่ต่างประเทศหาซื้อใบชะพลูยากก็ใช้ผักกาดแก้วแทนก็ได้  อร่อยคนละแบบ

เสร็จแล้วทำเครื่องเมี่ยง  มะนาว  หอมแดง ขิง  ตะไคร้ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆลูกเต๋า  ถั่วลิสง  และก็พริกขี้หนูสวน  เอามาประดับจานสำหรับคนไม่กินเผ็ด  อิอิ  อ่อ..เกือบลืม  ถ้ามีมะพร้าวใช้มะพร้าวด้วยจะอร่อย  อันนี้ไม่ได้ลอกใครสูตรดั้งเดิมเพราะที่บ้านย่าเค้าทำกินกันบ่อย 

มาถึงน้ำเมี่ยงก็เอาน้ำตาลปึกหรือน้ำตาลปีบอ่ะนะ ตั้งไฟอ่อน ๆ พอน้ำตาลละลายก็ใส่น้ำมะขามเปียกลงไป  แล้วเหยาะน้ำปลาลงไป คนให้เข้ากัน   ชิมเอาเองเรื่องรสเนี่ย  บอกไปก็ไม่ถูกปากเพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ขาดรสอะไรก็ใส่มันลงไปอีก พอเดือดยกลงเป็นอันจบ ส่วนวิธีกินคงไม่ต้องบอกนะเชื่อว่ากินเป็นกันทุกคน  งั้นเขียนแค่นี้แหละจ้า  จะพาลูกไปเดินเล่นแล้ว   

ทุเรียนแก้โรคผิวหนัง

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

พอเอ่ยถึงทุเรียน สามีเราบอกว่าถ้าเค้าต้องกินทุเรียน  เค้าขอกินถุงเท้าเหม็นๆของเค้าดีกว่า  กลิ่นหอมกว่าเยอะ  ง่ะ... หมดคำบรรยายจริงๆ  อะไรมันจะเหม็นขนาดนั้นเชียวรึ  เราว่ากลิ่นมันนี่หอมสุดๆ  

สาวๆหลายคนที่ชอบกินทุเรียน เวลาได้กลิ่นทุเรียนจะเหมือนโดนสะกด  แบบว่าอยากกินใจจะขาดแต่ห่วงสวยกลัวอ้วน  เดินไปดมกลิ่นใกล้ๆก็ยังดีวะ  อ่ะใครเป็นแบบนี้ยกมือขึ้น  ก็อยากจะบอกว่า คุณขาอย่าไปห่วงมันมากเลยสังขารเนี่ย ถึงเวลาเหี่ยวมันก็เหี่ยวมันก็ยาน  ดึงอย่างไร  ฉีดอย่างไรมันก็อยู่ได้ไม่นาน เชื่อเราเหอะ  ปลงๆซะมั่ง 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

อ่ะมาเข้าเรื่องทุเรียนกันต่อ  เขียนออกนอกเรื่องมากเดี๋ยวคนอ่านด่า  อิอิ  มาที่เนื้อทุเรียนหวานๆ นุ่มๆ  โอ้ย..แค่นึกก็ต่อมน้ำลายแตก  เผอิญมันเป็นของชอบอ่ะนะ  อ่ะๆ.....มาเขียนต่อ  ถึงไหนแล้วล่ะ  

อ่อ..เนื้อทุเรียนพอกินเข้าไปจะทำให้เกิดความร้อน  มันก็เลยช่วยแก้โรคผืวหนังยังไงล่ะ  ใครเป็นหนอง เป็นฝี รีบไปหามากิน  รับรองฝีและหนองแห้งไวกว่ากินยาซะอีก  แถมได้ของแถมเพราะมันจะไปเชิญคุณพยาธิออกไปจากกายสังขารคุณด้วย

ส่วนเปลือกคนโบราณเค้าเอาไปแช่ในน้ำปูนใส  ใช้ล้างแผลที่มันเกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง  แต่ที่บ้านย่าเราเค้าเอาไปเผาในเตาถ่าน แล้วก็เอามาบดให้มันเป็นผง ผสมกันน้ำมันมะพร้าว เอาไว้พอกหางหมู  เอ้ยไม่ใช่  อ่ะล้อเล่น  เอาไว้พอกคางทูมอ่ะจ้า   

แต่เราชอบวิธีของป้าสะใภ้เราจัง พับผ่าสิ   ป้าสะใภ้เราเค้าเอาเปลือกทุเรียนไปเผาไล่ยุง  วันไหนลุงกลับบ้านช้านิดหน่อย ก็จะเอาเปลือกทุเรียนมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว  ป้าสะใภ้บอกว่าเอาไว้ตบยุงบนหัวลุง  ฮ่า ฮ่า  ส่วนลุงก็นั่งกินข้าวไป เสียวสันหลังไปด้วย  ไม่รู้กลัวยุงกัด รึว่ากลัวโดนตบด้วยเปลือกทุเรียน  เอิ๊ก เอิ๊ก

สุดท้ายรากทุเรียนกับต้นมัน ยังเอาไปเป็นยารักษาไข้หวัดกับท้องร่วงได้อีก  แต่ขอแนะนำว่าถ้าคุณเป็นไข้หวัด ได้โปรดไปหาสมุนไพรอย่างอื่นกินเหอะ  ไม่ต้องลงทุนโค่นต้นทุเรียนนะจ๊ะ 

น้อยหน่ารักษาโรค

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ป้าเราเคยเอาใบน้อยหน่ามาตำกับน้ำมันเบนซิน  แล้วเอามาใส่ผมเรากำจัดเหา  ใส่ไว้เป็นชั่วโมง  เหามันเหม็นมันก็คลานออกมา  อย่าว่าแต่เหาเลยที่คลานหนีอ่ะ  เราเองยังคลานเลย  เวียนหัวสุดๆ  ป้าบอกมันใช้ประโยชน์ได้เยอะ  แก้ขับพยาธิลำไส้  แก้หิด แก้กลากเกลื้อน และแก้ฟกบวมก็ได้

ส่วนผลของน้อยหน่านี่เราชอบสุดๆ  เดินไปดูที่ต้นมันทุกเช้า  ว่าเมื่อไรมันจะออกลูก   พอมันมีลูกออกมาก็รอเมื่อไรมันจะสุก  เดินบีบมันทุกวัน ปู่เราเค้าจะเอาผลดิบมันไปทำยา  แก้ฝีในคอ กลากเกลื้อน ฆ่าพยาธิ ผิวหนัง และผลแห้ง แก้งูสวัด เริม แก้ฝีในหู  

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

เราเคยรู้มาว่าเมล็ดน้อยหน่าแก้พิษงูได้ด้วย แต่คงเป็นงูที่มีพิษไม่มากอ่ะนะ  เพราะถ้าเป็นงูเห่ากัด และมัวไปหาเม็ดน้อยหน่ามีหวังได้รักษากันในโลง  แต่ที่แน่ๆเมล็ดน้อยหน่าเป็นยาฆ่าพยาธิตัวจี๊ด ฆ่าเหา และแก้บวม ส่วนเปลือกไม้น้อยหน่า ปู่จะเอาไปเป็นยาสมานลำไส้ สมานแผล แก้ท้องร่วง  แก้รำมะนาด ยาฝาดสมานด้วยแหละ  

ฟักทองไทยต้านโรค

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

เราเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบกินแกงหมูใส่ฟักทอง  ป้าทำให้กินสมัยเด็กๆ  ทุกวันนี้ก็มาทำกินเอง แต่ฟักทองที่นี่เนื้อมันไม่เหมือนดับฟักทองบ้านเรา  ของบ้านเราอร่อยกว่าเยอะเลย  นอกจากเนื้อแล้วนะ  ยอดฟักทองกับใบของมัน เราก็เอามาแกงส้ม  หรือผัดน้ำมันหอยไฟแดงจิ้มน้ำพริกกะปิก็อร่อยไปอีกแบบ  

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

เปลือกและเนื้อฟักทอง มีวิตามินเอสูง รวมทั้งฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง และ เบต้าแคโรทีน มันจะช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ และยังต้านความแก่ ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา
 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ใบอ่อนและดอก มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ

เมล็ดฟักทอก มีแป้งเยอะ มีฟอสฟอรัส โปรตีนและวิตามิน คิวเคอร์บิติน ซึ่ง มีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืด และก็ช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และน้ำมันจากเมล็ดฟักทอง  ก็ช่วยบำรุงและก็บำรุงประสาทด้วยหละ มันยังมีกรดอะมิโนบางชนิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ต่อมลูกหมากของผู้ชายขยายใหญ่ ขึ้น และช่วยปรับระดับฮอร์โมนเพศชายที่ได้จากลูกอัณฑะให้อยู่ในระดับปกติ


รากฟักทอง อันนี้เราไม่เคยกิน  แค่รู้มาว่าถ้าเอามาต้มไว้ดื่มแก้อาการไอได้ และบำรุงร่างกาย ถอนพิษของฝิ่น

เยื่อกลางผล ที่ส่วนมากเวลาพวกเราผ่าฟักทองจะเอาส่วนนี้โยนลงถังขยะกันซะหมด  รู้มั้ยละน่ะว่าถ้าคุณเอามันมาพอกแผล แก้อาการฟกช้ำ อาการปวด อักเสบได้ดีเลยหละคุณเอ้ย

พระคุณของเมีย

เมียคือผู้มีอำนาจและผู้มีพระคุณ  โอ้ย..คุณเอ้ย ขึ้นหัวกระทู้แบบนี้บรรดาเมียๆงี้ยิ้มแก้มแทบปริ  ก็มันจริงนะ  ผู้ชายคนไหนที่กลัวเมียเนี่ยจะได้ดีหมดอ่ะ  อันนี้หมายถึงในกรณีที่เมียดีนะคร้า  ย้ำว่าเมียดี  คนไหนได้เมียที่โลภมาก  บ้าแบรนด์เนมก็พากับล่มจมทั้งผัวทั้งเมีย  อันนี้ก็ตัวใครตัวมัน

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ก่อนเขียนต้องบอกกันก่อน  ว่าบล็อกนี้เจ้าของบล็อกปากหมาไปสักนิด แต่ก็จริงใจ  อาจเขียนอะไรที่ไม่ค่อยเข้าหูใคร ก็ขออโหสิกรรมไว้ตรงนี้ละกันเน๊ะ  ใครจะด่าเราก็ได้แต่คุณก็เครียดไปคนเดียวนะคร้า  ส่วนเราพอเขียนเสร็จก็กลับไปนอนลูบพุงหลับสบายไป  ไม่ได้ยินไอ้ที่คุณด่าหรอกนะจ๊ะ  

อ่ะมาเข้าเรื่อง  ความจริงเมียๆจ๋า  อย่าไปด่าผัว เพราะมันไม่ดีกับตัวคุณนะจ๊ะ   ด่าไปก็ไม่เจริญ  เอาวิธีนี้ไปใช้ ความเงียบสยบความเคลื่อนไหว  คุณผัวทำอะไรผิดก็ช่างหัวมันไม่ต้องไปนั่งตามจิก  เสียสุขภาพจิตเปล่าๆคุณเอ้ย


ถ้าผัวคุณมีเมียน้อย  อย่าไปด่าเมียน้อย ไม่ต้องไปสืบว่ามันนอน "กก" กันอยู่ตรงไหน  หันมาดูตัวคุณเองสิ  ว่าทำมั้ยทำไมผัวku ถึงมีคนอื่นวะ  นังเมียน้อยมันมีอะไรที่kuไม่มีหว่า  แต่เชื่อเหอะ  หาให้ตายก็หาไม่เจอเพราะมัวแต่หวงผัว  ไม่มีสติมาพิจารณา

เวลาผัวหายหัวไปเนี่ย อย่าใช้อารมณ์คิดแทนสติ อย่ามัวแต่นั่งท่องผัวkuๆ เอาของkuคืนมา แล้วก็ตามจิก  โทรจิก  หน้าหงิกหน้างอ  ไอ้แก่มรึงอยู่ไหน  ทำอะไร  พอผัวกลับก็ด่าตั้งแต่ผัวยังไม่ได้เข้ามาในบ้านเลย  โอ้ยๆๆๆ ถ้าเป็นแบบนี้ เราเป็นผัวคุณเราก็หนีวะ

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

อย่าลืมนะเมียๆทั้งหลาย  ว่าผัวไม่ใช่หมาเฝ้าบ้าน  อย่าไปบังคับเค้า   ว่าห้าโมงเลิกงาน หกโมงต้องถึงบ้าน สายแม้แต่นาทีเดียวมรึงหัวแตก  กฏเหล็กบ้าบอ อะไรพวกนี้นะ  ถ้าทำอยู่เลิกทำ  ปล่อยเค้าบ้างเหอะคุณเอ้ย  ยิ่งคุณห้ามผัวคุณก็ยิ่งแอบไปทำ

อย่าโทรจิกเด็ดขาดเชียวนะ  อ่อ..คุณรีบไปหาซื้อถุงยางมาไว้สักโหล  นั่งอ่านบล็อกเราก็ได้  รอเวลาผัวกลับมาบ้าน  ต่อให้ดึกขนาดไหน  คุณก็ยิ้มรับมันลูกเดียว  แค้นแค่ไหนลืมไปก่อน  ยิ้มรับมันไปเหอะ แล้วเอาน้ำเย็นๆให้ผัวคุณกินสักแก้ว  ถามหน่อยว่าเหนื่อยมั้ย  แล้วเอาถุงยางใส่มือผัวคุณไว้ บอกเค้าด้วยว่ายืดอก พกถุงนะคร้าคุณพี่  อย่าเอาเอดส์มาฝากลูกเมีย 

แล้วไม่ต้องพูดมากไปกว่านี้นะ  พูดแค่ที่บอกนั่นแหละ  อยากพูดแค่ไหนก็ท่องไว้ว่าkuต้องเงียบ  พูดเสร็จเดินหนีเลย  แค่คุณทำแบบนี้เนี่ยผัวคุณก็เสียวสันหลังแล้ว  เดาทางไม่ถูก  เพราะไม่รู้ไงว่าคืนนี้เมียมันจะมาไม้ไหนกับku   ทำไปเรื่อยๆ  ถ้าผัวคุณเค้าไม่สิ้นคิด  เดี๋ยวเค้าก็เลิกเที่ยวไปเอง  

พอถึงวันหยุดก็พาผัวคุณไปวัดพระบาทน้ําพุ  ไปดูผู้ป่วยโรคเอดส์  และก็พาไปฟังธรรมเรื่องศีลซะมั่ง  ให้หลวงพ่ออบรมแทนเราไง  แค่นี้แหละ  สบายๆ ชิวๆ  ส่วนเมียน้อยอ่ะนะ  มันมากิ๊กกับผัวคุณได้  มันก็ไปกิ๊กกับคนอื่นได้เชื่อเหอะ   เดี๋ยวมันเบื่อผัวคุณมันก็ไป  ไม่ต้องเสียเวลาตาม  เอาเวลาตามผัวไปทำบุญดีกว่าคุณเอ้ย 

ชวนมาดูขี้

บทความนี้จะเขียนเรื่องขี้ๆ  จะเรียกอุจจาระก็ไม่ถนัด  มันก็แค่ชื่ออ่ะนะ  คนตั้งกันขึ้นมาเองทั้งนั้น  แต่ก็อย่างที่บอกเรามันคนบ้านนอกคอกนา ขอใช้ภาษาพ่อขุนดีกว่าละกัน อย่าถือสานะจ๊ะ  อ่ะใครกำลังกินก็ขออภัยอย่างแรง 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

เราเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องขี้มากมาย  บางครั้งต้องเดินทางสองสามวัน  เราไม่ขี้มันทั้งสามวันเลย  เก็บเอามาขี้ที่บ้าน  ไม่รู้มันอยู่ได้ไง  ผิดกับสามีและลูกที่ก้นรั่ว กินเข้าไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เข้าทางปากออกทางตูดตลอด 

เราชอบดูขี้ลูกนะ  สั่งสามีไว้ ลูกขี้เมื่อไรแกห้ามกดชักโครก  จนกว่าฉันจะดูเสร็จ  สามีมองหน้า ถามเราว่านี่เธอโรคจิตหรือเปล่าเนี่ย ว่าซะเสียเลย  ไม่ได้โรคจิตโว้ย ก็แค่อยากรู้สุขภาพลูกเท่านั้นเอง  เลยต้องมานั่งดูขี้

อ่านหนังสือเจอเค้าเขียนว่า ถ้าขี้มีเลือดสดๆก็ตรวจตัวเองดูว่าคุณเป็นริดสีดวงทวารหรือเปล่า ถ้าขี้มีสีดำเหมือนถ่าน นั่นหมายถึงคุณอาจจะมีเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้ แต่ถ้าขี้สีเหลืองซีด อาจเกิดจากการอักเสบของลำไส้ หรือมะเร็งได้ อันนี้ต้องรีบตรวจด่วน แล้วกลับมากินสมุนไพรที่บ้าน  อิอิ  พอแระเขียนแค่นี้แหละ  ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อ  พักก่อนดีกว่า แล้วเจอกันที่บทความใหม่นะจ๊ะ 

ไม่มีชื่อดูเอาเอง

ขอขอบคุณภาพประกอบจากคุณmojito544จากเว็บพลังจิตนะจ๊ะ

พวกสิ้นคิด

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

"พวกสิ้นคิด" เรานี่โดนด่าบ่อยนะคำนี้  ก็ยินดีให้ด่า  ไม่ได้เถียงเพราะไม่รู้จะเถียงไปทำไมก็มันเรื่องจริง  เราไม่ชอบคิดจริงๆ  คิดไปทำไม  อนาคตยังมาไม่ถึง  จะตายเมื่อไรก็ไม่รู้  แบบว่าคิดแล้วมันเสียเวลาไงเข้าใจป่ะ ถ้าเรามัวแต่เอาเวลาของวันนี้ไปคิดถึงวันพรุ่งนี้  วันนี้ทั้งวันก็เลยไม่ต้องทำมาหากิน  ไม่ได้เล่นกับลูก  ทำให้เสียความสุขไปอีกหนึ่งวันเต็มๆ

มีอยู่ครั้ง  ตัวต่อมันบินเข้ามาในบ้าน  ข้างนอกฝนตก  เราอยู่ข้างบนกับลูกไม่รู้เรื่อง  แต่ได้ยินเสียงสามีด่าใครไม่รู้ตะโกนลั่นบ้าน  เราเลยเดินลงมาดู  เห็นสามีโกรธจนหน้าแดง ที่มือถือผ้ายาวๆผืนหนึ่ง เอาไว้ตีตัวต่อ อีกมือก็ชี้ไปที่หลอดไฟ  กำลังด่าตัวต่อ 

เราก็เลยถามสามีว่า  "มันต่อยเธอเหรอ" ตาสามีบอก  "มันยังไม่ได้ทำอะไร  แต่เดี๋ยวมันก็ทำ  เพราะมันรู้ว่าเค้าไม่ชอบมัน  ถ้าให้มันอยู่แล้วมันเกิดอยากจะต่อยเค้าล่ะ  ใครจะรับผิดชอบ"  น่าน..ดูเอาเหอะคนเราอ่ะ  คิดแทนตัวต่อก็เอา

ตัวต่อมันหนีฝนเข้ามา มันก็ไปเกาะนิ่งๆตรงข้างๆหลอดไฟ  เดี๋ยวฝนหยุดมันก็ไป  ตาสามีตัวแสบคิดแทนตัวต่อ  สรุปวันนั้นพอเราบอก อย่าไปฆ่ามันเชียวนะ  สามีหันมามองเราแบบตาขวางๆ  อาการเหมือนหมาบ้าเวลาจะมีคนมาแย่งกระดูกมันอ่ะ  อิ อิ 

เราก็ยืนเป็นก้างขวางคอมันอยู่ตรงนั้นพักหนึ่ง  เห็นสามีไปนั่งดูหนังต่อ เราเลยเดินเข้าไปในครัว  พอลับหลังเมีย  ตาสามีก็จัดการตีตัวต่อซะตายคาที่  เราวิ่งมาห้ามไม่ทัน  พอตัวต่อตายสามีตัวดีก็มาบ่นให้เราฟังอีก  ว่าเพราะตัวต่อแท้ๆ  ทำให้แกดูหนังไม่รู้เรื่อง


เราเลยบอก "นั่นแหละพ่อคุณเอ้ย....ที่ฉันบอกว่าชีวิตขาดทุนอ่ะ  คราวนี้เข้าใจรึยัง นี่ถ้าแกไม่ไปยุ่งกับตัวต่อตั้งแต่แรก  แกก็ได้ดูหนังไปแระ  ตัวต่อมันก็ได้กลับรังมันด้วย"   ส่วนตาสามียังไม่เข้าถึงธรรม  ฟังเมียพูดไม่รู้เรื่อง  กลับไปนั่งหน้าหงิกต่อไปอีกหลายชั่วโมง  

ราชินีแห่งผลไม้

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาะกูเกิล

พวกคุณรู้มั้ยว่าฝรั่งเค้าสนใจ สมุนไพรไทยมากที่สุดเลย  แต่เอามาปลูกบ้านเค้าแล้วมันไม่ขึ้น  ไม่งั้นเค้าคงไปขนเอาไปหมดแล้ว  เราอยากให้คนไทยภูมิใจในสมุนไพรไทยนะ  ช่วยกันฟื้นฟูสมุนไพรไทย  ช่วยกันปลูกมากๆ  ช่วยกันศึกษาให้แท้จริง  

หันมาดูแลตัวเองด้วยสมุนไพรไทยกันดีกว่ามั้ย ไม่ต้องกลัวว่ามันจะรักษาไม่หาย  อย่าลืมว่าคนโบราณอายุยืนกว่าเรานะจ๊ะ  สุขภาพดีกว่าพวกเราด้วยซ้ำ เพราะเค้ารู้จักกิน  รู้จักใช้สมุนไพรไงล่ะ   อย่าปล่อยให้ของดีของพวกเรา มันหายไปกับความเจริญทางเทคโนโลยีเลย คุณว่าจริงมั้ย

มาเข้าเรื่องต่อดีกว่าเขียนมากคนอ่านหนีหมด  คนโบราณจะเอามังคุดมาทำยาสมุนไพรเพื่อรักษาโรค เริ่มจากเปลือกมังคุด เอาไปฝนกับน้ำปูนใส ใช้ทาแผลให้หายเร็วขึ้น และช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า บางคนเอาเปลือกมังคุดไปต้มดื่มแก้อาการท้องร่วง 

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ส่วนเนื้อมังคุดมีสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และ เหล็ก  และมันมีกากใยช่วยเรื่องขับถ่ายได้ดีด้วย

มังคุดยังช่วยปรับระดับภูมิคุ้มกันในตัวเราให้สมดุลอีกนะจ๊ะ โดยที่มันจะหลั่ง Interleukin I และ Tumor Necrosis Factor ซึ่งจะช่วยลดอาการที่เกี่ยวกับการแพ้ภูมิตนเอง แก้การอักเสบ  และมังคุดก็ยังช่วยให้ร่างกายสามารถต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรีย หรือ เซลล์มะเร็งได้อีกด้วย

สาวร้อยผัว

อ่ะเราไม่ได้ด่าใครนะ  แต่ที่เขียนหัวบทความว่าสาวร้อนผัวเนี่ย  หมายถึงชื่อสมุนไพรจ้า  คนอีสานเค้าเรียกผักชีช้าง ภาคกลางเรียกสามร้อยราก รู้จักกันอ่ะเปล่า

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ป้าเราจะเอายอดอ่อนไปทำแกงอ่อม มันจะมีกลิ่นหอม เหมือนกลิ่นผักชีลาว  ลุงบอกว่าเห็นปู่เราเอาไปทำยาดองเหล้า ยาลูกกลอนแบบเม็ด ใช้เป็นยาบำรุง และมันก็บำรุงได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิง เพราะกินแล้วทำให้คึกคัก จริงเท็จอย่างไรไม่รู้ แต่ปู่กับย่ามีลูก 11 คน หลักฐานชัดเจน อิ อิ

อ่ะใครสนใจก็ขยับเข้ามา  หยิบปากกากระดาษขึ้นมาเตรียมจดวิธีการทำยากันนะจ๊ะ  เริ่มที่เอารากไปตากแห้งแล้วบดให้เป็นผง พอได้ผงมันมาแล้วเอาไปผสมกับน้ำผึ้งแท้  แล้วปั้นเป็นลูกกลอน  เก็บใส่ขวดไว้  เอามากินเช้าเย็น แค่นี้จบ  ไม่มีอะไรมาก  

ใครไม่ชอบกินแบบขมๆก็เอารากมันไปเชื่อมกินแทนขนมหวานอร่อยดี  ส่วนคุณผู้หญิงเอารากไปต้มกินแทนน้ำชา โดยเฉพาะคนที่มีภาวะประจำเดือนไม่ปกติ ปวดประจำเดือนมากๆ  หรือคนที่มีบุตรยาก  รวมถึงคนที่มีตกขาวบ่อย  และสุดท้ายคนที่หมดอารมณ์ทางเพศก็ไปหามากินซะ  

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ใครที่กำลังให้นมลูกก็กินได้นะขอบอก มันจะบำรุงน้ำนม  คนท้องกินเข้าไปมันก็จะบำรุงครรภ์ ป้องกันการแท้ง และมันก็ยังช่วยยับยั้งเบาหวาน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ ลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันโลหิตสูง ยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ยับยั้งพิษต่อตับ 

แต่...ตรงนี้อ่านดีๆ  สาวร้อยผัวมันเป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจน ฉนั้น...ห้ามใช้ในคนที่รู้ตัวว่าเป็นมะเร็งกินโดยเด็ดขาดนะจ๊ะ ใครไม่แน่ใจว่าเป็นมะเร็งหรือไม่อย่าเพิ่งไปกินล่ะ  ไปตรวจซะก่อน

ก็จะตดใครจะทำไม

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

คุณรู้มั้ยว่าปกติเราจะตดประมาณคนละ 14 ครั้ง  ต่อวัน และมันจะมีแก๊สที่ออกมามากถึงหนึ่งลิตร  และเวลาจะปวดตดนี่ มันจะปวดแบบไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านะ  และมาแบบไม่เลือกสถานที่ซะด้วย  ฉนั้นเรื่องตด เป็นเรื่องธรรมชาติ  อย่าไปอาย  แต่เกรงใจหน่อยก็ดี  

  ถ้าเกิดปวดตดตอนเดินบนถนนก็ช่างมันเหอะ  ตดดังขนาดไหนก็ไม่มีใครสนใจจะฟังตดคุณหรอก  แต่ถ้านั่งอยู่ในห้องประชุมนี่สิ  อื้อหือ...สุดจะบรรยาย  

พอจะประชุมปุ๊บเอาเลย  นั่งเกร็งก้นเพื่ออั้นตดแทบตาย  บางครั้งอั้นไม่ไหวก็ค่อยๆตดออกมาอย่างบรรจง  แอบลุ้นในใจอย่ามีเสียงนะโว้ย  มาแต่กลิ่นไม่เป็นไร  เดี๋ยวkuทำเป็นเฉย  เนียนๆ


วีรกรรมเรื่องตดของครอบครัวเราน่ะเพียบ  มีอยู่ครั้งหนึ่งเรากับสามีและลูกสาวอยู่ในลิฟท์  ลิฟท์ที่บ้านเราตัวนิดเดียว  เข้าไปสามคนก็เต็ม ตาสามีเราเค้าชอบแกล้งเรา  วันนั้นไม่รู้นึกอย่างไร  แกก็ตดเบาๆ แล้วก็หัวเราะอยู่คนเดียว  

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

เราอ่ะไม่รู้เรื่องหรอกนะว่าแกตด แต่ลูกสาวเราเค้าตัวเล็กไง สูงระดับก้นสามีเราพอดี  แกบอก "มาม้า ปะป้าตด  แหวะ เหม็น "  แล้วลูกเราก็เอามืออุดจมูกตัวเอง  สามีเรายืนหัวเราะใหญ่ คงสะใจที่แกล้งเรากับลูกได้อ่ะ

พอประตูลิฟท์มันเปิด พวกเราก็เดินออก   คนที่เค้ายืนรอลิฟท์อยู่เค้าก็กำลังจะเข้าลิฟท์ เจ้าลูกสาวตัวแสบก็พูดอีก  "ปาป้าตดในลิฟท์ แหวะ  เหม็น" 

ตะขบแก้หวัด

ขอขอบคุณภาพปะกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ตอนเรียนชั้นปฐมอยู่ที่บ้านย่า  มุมของสนามฟุตบอลของโรงเรียนจะมีต้นตะขบอยู่หนึ่งต้น  ผลออกมาดกมากมาย  นักเรียนชอบไปปีนเก็บ หนึ่งในนั้นก็เรานี่แหละ  เจ้าแม่ตะขบ  เก็บกินยังไม่พอนะ  เอาใส่กระเป๋าไปฝากนกเอี้ยงที่ปู่เลี้ยงไว้ที่บ้านด้วย

วันไหนอากาศดีๆ ครูจะพามานั่งเรียนใต้ต้นตะขบ  ครูก็สอนไป เด็กก็นั่งมองหาลูกตะขบสุกๆ  ไม่ได้เป็นตาเรียนกันละ  พอได้ยินเสียงกริ่งดัง ก็รีบแย่งกันปีนเก็บลูกตะขบ  คนไหนเร็วก็ได้กิน  คนไหนช้าก็หน้าหงิกหน้างอ  ยืนแช่งไอ้คนที่แย่งเก็บอยู่โคนต้น  มีความสุขไปอีกแบบตามแบบเด็ก

ครูเคยบอกว่าตะขบมันเป็นยา กินได้อ่ะดี  แล้วครูก็เล่าว่าเปลือกกับต้นของมันมีรสฝาด เป็นยาระบาย เพราะมีสารพวก Mucilage มาก  ส่วนใบของมันมีรสฝาด ใช้ในการขับเหงื่อ ดอกของมันแก้ปวดศีรษะ แก้หวัด ปวดเกร็งในทางเดินอาหาร ลดไข้ ครูบอกถ้าเอาไปต้มรวมกับสมุนไพรอื่น ๆ เอาน้ำดื่มเป็นยาขับระดู และแก้โรคตับอักเสบ ผล รสหวานเย็น มีกลิ่นหอมบำรุงกำลัง ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ

กานพลูแก้ปวดฟัน

ขอขอบคุณภาพจากแฟ้มภาพกูเกิล

กานพลู เป็นสมุนไพรอีกอย่างที่มีในสวนบ้านย่า  ตอนเด็กๆ เราจะเฝ้าเก็บดอก  เอาเฉพาะดอกตูมๆ แล้วไปตากแดดให้มันแห้ง  ตอนเก็บอ่ะสนุก  แต่ตอนเอาไปตากแดดนี่ดิ  ไปเล่นไกลบ้านไม่ได้  ถ้าลมฟ้าลมฝนมา ก็ต้องวิ่งหน้าตั่งกลับบ้าน มาเก็บดอกกานพลูที่ตากไว้  ถ้าปล่อยให้มันเปียกฝน เดี๋ยวใช้เป็นยาไม่ได้  

พอเก็บได้มากๆก็เอาไปใส่โหลใหญ่ๆ  แล้วก็เอาไปขายให้ย่า  เป็นการหาค่าขนมของเราอีกวิธีหนึ่ง  แบบไม่ต้องลงทุนเค้าเรียกว่าอัฐยาย ซื้อขนมยาย

เวลาเราปวดฟัน  ย่าจะเอาดอกกานพลูแห้งที่เราซื้อมาจากเรานี่แหละ ไปแช่ในเหล้าขาว  แล้วก็เอาสำลีชุบอุดรูฟัน ได้ผลทันตาเห็น  หายจากอาการปวดฟัน มามึนหัวกับกลิ่นเหล้าขาวแทน

วันไหนที่เราปวดท้อง เพราะตามใจปากมากไปหน่อย  อิ่มแล้วไม่รู้จักพอ  ย่าจะเอาดอกแห้งกานพลูไปชงในน้ำเดือด  เหมือนชงชาอ่ะ  เอามาให้ดื่มแก้ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ และมันยังแก้ท้องเสีย กับช่วยดับกลิ่นปากอีกด้วยนะจ๊ะ ขอบอก

นิสัยหรือสันดาน

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

คนโบราณเคยบอกนิสัยแก้ได้  สันดานแก้ไม่ได้  อันนี้เรื่องจริง  นิสัยบางคน สมัยเป็นเด็กเกเรสุดจะบรรยาย  ยกพวกตีกันหมดจนอนาคตไปตั้งหลายคนแระ  แต่คุณรู้มั้ยละ  ว่าน้องๆกลุ่มนี้เค้าไม่ได้เลวโดยสันดาน 

บางคนเห็นน้องๆช่างกลตีกัน ก็ด่าไปถึงพ่อแม่ปู่ย่าตายายเค้าเลย  แต่ถามหน่อยนะ  ว่าเวลาน้องๆกลุ่มนี้เค้าทำดี  เค้าช่วยสังคม  ทำไมพวกคุณไม่มีใครสนใจจะดู ไม่มีใครสนใจจะชื่นชมเค้า   ไม่มีแม้แต่จะพูดถึงด้วยซ้ำไป  แต่เวลาเค้าทำชั่วละก็จำกันจัง


ความจริงเราจะไปโทษน้องๆเค้าไม่ได้นะ  ในเมื่อผู้ใหญ่เองก็ทำตัวไม่ดีให้เด็กมันเห็นตลอดเวลา  บางคนลืมบุญคุณพ่อแม่ตัวเอง โกหกไปวันๆ  มือไว  ใจเร็ว  เห็นแก่เงิน  ก็มันมีแต่ตัวอย่างแบบนี้อยู่ไง  แล้วเด็กมันจะเอาตัวอย่างที่ดีจากใครล่ะ   จริงป่ะ

ที่มาเขียนนี่ไม่ได้มีคนรู้จักเรียนอยู่ช่างกลนะ  แต่เขียนเพราะอยากให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายเปิดใจ  และให้โอกาสเด็กกลุ่มนี้บ้าง อภัยให้เค้าเวลาเค้าทำผิด  อย่าซ้ำเติม  อะไรที่ช่วยเค้าได้ก็ช่วยเค้าเหอะ  เวลาเค้าทำดีก็ต้องชื่นชม  เค้าจะได้มีกำลังใจที่จะทำดีต่อไป  และที่สำคัญผู้ใหญ่ทั้งหลาย  ต้องทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างที่ดีกับเค้าด้วยนะจ๊ะ  เด็กมันจะได้ทำตาม OK

สารส้มดับกลิ่นตัว

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

เคยมั้ยที่คุณไปนั่งใกล้ใคร  แล้วคนๆนั้นเค้ามีกลิ่นแรงมากๆๆๆ  โดยเฉพาะตอนขึ้นรถไฟฟ้า หรือรถเมล์ที่คนแน่นๆเนี่ย  อื้อหือ...สุดจะบรรยาย



ตอนเรายังเด็กๆ เราเห็นป้าเราเอาสารส้มมาทาใต้รักแร้ทุกวัน  มีอยู่วันแอบตกใจตอนที่เห็นป้าเอาสารส้มมาแกว่งน้ำในโอ่ง  ป้าบอกให้สิ่งสกปรกมันตกตะกอน ลงไปนอนก้นโอ่ง  ตอนนั้นเราแอบเคืองป้า  ไม่ยอมล้างหน้าด้วยน้ำโอ่งนั้นไปหลายวัน  เพราะจำได้ว่าป้าเราเค้าชอบเอาสารส้มทารักแร้ทุกวัน

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

จนป้าถามว่าทำไมไม่ใช้น้ำโอ่งนี้ล้างหน้า เราก็บอกใครจะไปใช้น้ำโอ่งนั้นได้ลงล่ะ  ก็ป้าเอาสารส้มที่ทารักแร้ไปแกว่งน้ำในโอ่ง  พอเราพูดจบ  ลุงนั่งกินข้าวอยู่ตรงนั้นพอดี   แกก็สำลักข้าว  แกบอกโทษที แกกลั้นหัวเราะไม่ไหวว่ะ  แล้วแกก็หัวเราะตัวงออยู่ตรงนั้นอ่ะ

ป้าก็บอกว่ากับเราว่า สารส้มมันละก้อนกันไปดูดิ ว่าก้อนในห้องน้ำมันยังอยู่รึป่าว  และก้อนที่โอ่งมันยังอยู่มั้ย  เราก็เดินไปดู เออ..จริงด้วยคนละก้อน  โธ่...โง่มาซะตั้งหลายวันเลยku  

แล้วแกก็บรรยายสรรพคุณสารส้มให้เราฟังว่า สารส้มยังดับกลิ่นเท้าได้ด้วย แถมเอาไปดองผักก็ได้  ผักจะกรอบอร่อย  ป้าบอกว่าน้ำในโอ่งที่แกว่งสารส้ม  ป้าชอบเอามาแช่พริกสด  จะทำให้เก็บพริกไว้ได้นานหลายวัน  เอาน้ำสารส้มมาล้างปลาจะไม่เหม็นคาวปลา  และล้างเมือกมันออกง่าย  เอามาซักผ้าจะช่วยจำกัดคราบผงซักฟอกให้หมดไม่ติดเสื้อผ้า


ตอนแรกเราคิดว่าสารส้มมีใช้เฉพาะเมืองไทยนะ  แต่ป่าวเลย ที่ฝรั่งเศสเพื่อนเราที่เป็นฝรั่ง  มันก็ใช้สารส้มทารักแร้กันหลายคน  เราเคยเอามาขาย  ตอนกลับไปเที่ยวเมืองไทย  ขนสารส้มกลับมาหลายกิโล  พอเอามาถึง  เพื่อนมันบอกมรึงอย่าเสียเวลา  ถ้าไม่มาจากร้านขายยาของประเทศku    คนที่นี่เค้าก็ไม่ซื้อของมรึง  อีกอย่างนะ เดี๋ยวนี้เค้าไม่ใช้กันแล้ว  มันไม่มีกลิ่น สู้โรลออนหอมๆไม่ได้  แล้วก็จริงอย่างที่มันพูด สารส้มชุดนั้นทุกวันนี้ยังอยู่เลย  ขายไม่ได้จริงๆ  เอาให้มันฟรีๆมันยังเอาไปทิ้งซะเลย 

ตัวku ของku

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

เวลาคนเรามีปัญหาส่วนใหญ่ก็มักจะหันหน้าเข้าวัด  ถามหน่อย ทำไมตอนที่คุณยังสบายใจ มีความสุข  ทำไมไม่คิดจะเข้าวัดบ้างล่ะ มีแต่จะหอบเอาความทุกข์เข้าไปในวัด  เข้าไปทำบุญ ปล่อยนก  ปล่อยปลา  นั่งสมาธิกรรมฐาน ถือศีลสองวันเจ็ดวัน  แล้วก็ออกมาทำบาปต่อ 

บางคนไปทำบุญเก้าวัด  หายไปสองสามวัน พอกลับมาถึงบ้านรีบเช็คมือถือผัว  นั่นแน่..ช่วงที่ku ไม่อยู่มรึงแอบมีกิ๊กอะเปล่า  แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตากดใหญ่แบบเอาเป็นเอาตาย  อ่าวพอไม่มีเบอร์แปลกๆ  งั้นไปค้นหาในรถ  หาเส้นผม  หากลิ่นน้ำหอม  พอเจอก็ด่าผัวบ้านแตกละทีนี้  ผมของใครไม่รู้  ku ไม่สน  ด่ามันไว้ก่อน  ไอ้ที่รับปากหลวงพ่อไว้ว่าจะท่องแต่พุทโธน่ะลืมไปแระ

บางคนยิ่งหนัก  ปฏิบัติธรรมเสาร์อาทิตย์ ถือศีลแปดอย่างดี ปล่อยปลาสะเดาะเคราะห์  นั่งสมาธิ กรรมฐาน  พอออกจากวัดจะกลับบ้าน หันไปดูนาฬิกา  อุ้ย..ยังพอมีเวลานี่หว่า  อ่ะเดี๋ยวแวะหาเมียน้อยก่อน  ไม่เจอหลายวันเกิดอาการคิดถึง  พอเล่นจั้มจี้กับเมียน้อยเสร็จธุระ ก็กลับบ้านตัวเอง พาลูกพาเมียไปนั่งร้านอาหารทะเล  สั่งกุ้งเผา  หอยแครงลวก  ปลานึ่งมะนาว  ไปยืนชี้นิ้วสั่งพนักงานในร้านเลย  จะเอาตัวที่มันว่ายอยู่ในตู้นั่นแหละ  ปัดโธ่.....พ่อคุณแม่คุณเอ้ย  เทวดาเค้าเห็นว่ามาปฏิบัติธรรม ตั้งใจจะตามมาคุ้มครองซะหน่อย  มาเจอแบบนี้ ท่านหันหลังกลับแทบไม่ทัน

ความจริงการที่คนเราจะทำบุญ  ไม่ต้องทำที่วัดก็ได้นะ ที่ไหนก็ทำได้  ถ้าทำเองที่บ้านได้นี่ยิ่งดี  อยู่บ้านถือศีลห้าให้ครบ  แถมเอาเบญจศีล เบญจธรรมเข้าไปด้วย ปากและใจจะได้ไม่ต้องไปแอบด่าใคร  ศีลจะได้บริสุทธิ์  นั่งสมาธิ ไหว้พระ  สวดมนต์  ทำบุญทำทาน แค่นี้เองง่ายจะตายไม่ต้องลงทุนเสียค่ารถ ค่าน้ำมันไปไหนไกล 

บางท่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้วปิดเว็บเลย   แอบบ่นด้วยนะนี่ku มาเสียเวลาอ่านอะไร  แหม๋...เวลาของคุณมันไม่เสียเปล่านะคุณขา  ไอ้ที่เราบอกเนี่ย  ถ้าคุณเปิดใจให้กว้างขึ้นมานิดหนึ่ง  รับฟังเราสักหน่อย  คุณจะได้อะไรดีๆ อย่างที่คุณไม่เคยได้มาก่อนในชีวิตนี้เลย  เราขอรับประกัน

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

สังคมสมัยนี้ใครทำอะไรไม่ดีมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นน่ะ   จำฝังใจเชียว โจมตีกันให้ตาย  เอาแบบไม่ต้องให้ผุดให้เกิด  หลับหูหลับตาด่าปาวๆ  แต่ไม่เคยลืมตาขึ้นดูเลย  ว่าความผิดครั้งเดียวของเค้า  มันเทียบเท่ากันมั้ย กับความดีที่เค้าทำมาตลอดชีวิตนั่นนะ   มองตัวเองบ้างสิคุณ  ว่าคุณดีได้ครึ่งของเค้ารึยัง  ไม่มีใครที่จะไม่เคยทำผิด  แต่ผิดแล้วสำนึก  ผิดแล้วกลับตัวเป็นคนดี  ผิดแล้วเรียนรู้และไม่กลับไปทำมันใหม่  นั่นแหละคนดี  

ขอเน้นอีกอย่างเรื่องบุญคุณของผู้ที่ให้โอกาสเรา  อย่าทำตัวเป็นคนเณรคุณคน  เนรคุณพ่อแม่ ถ้าคุณเณรคุณเมื่อไร  ความหายนะในชีวิตคุณมันจะมาหาคุณทันที  จำไว้เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

สมุนไพรสารพัดโรค

สูตรสมุนไพรลดความอ้วนและรักษาโรคต่างๆที่ได้มาจากหมอพญายม  เค้าเป็นใครไปค้นหากันเอานะจ๊ะ  พิมพ์เข้าไปชื่อหมอพญายม  เดี๋ยวมีขึ้นมาให้อ่านเพียบ  อ่ะมาเข้าเรื่องยาดีกว่า  

มีกระเพราแดง  กระเพาขาว  โหระพา  ยี่หร่า  ใบสะระแหน่  อย่างละหนึ่งกำมือ  น้ำห้าถ้วยใหญ่ ก้อนสารส้มเท่าเล็บตัวเอง  เกลือครึ่งช้อนชา ต้มกินเช้าเย็นวันละครึ่งแก้ว  ได้ผลนะขอบอก ไม่เชื่อลองดูดี๊

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ขอขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ฟักข้าวต้านมะเร็ง

ขอบคุณภาพจากแฟ้มภาพกูเกิล

วันก่อนเดินซื้อของในห้างแถวบ้าน  ในมุมที่มีผักและผลไม้นำเข้ามาจากเอเซีย  เจอผลฟักข้าว แต่นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน ยืนจับอยู่พักหนึ่ง ก็เลยเดินผ่านไป  แอบเก็บความสงสัยกลับมาถึงบ้าน

พอมาถึงก็โทรไปหาลุง  ว่าเจอผลฟักข้าวลุงรู้จักหรือเปล่า ลุงย้อนถามเราว่าเราจำไม่ได้รึ สมัยก่อนมันขึ้นมาตามรั้วหลังบ้านย่า  ขึ้นแข่งกันกับต้นตำลึง  ผลมันจะมีสามสี ลูกอ่อนสีเขียว  พอโตใหญ่จะเป็นสีส้ม พอสุกจะมีสีแดง มีหนามอยู่เต็มผลเลย  

ขอขอบคุณภาพจากแฟ้มภาพกูเกิล

เนื้อมันจะเหมือนเนื้อมะละกอดิบ  กินได้ทั้งผลอ่อนและผลแก่  เมล็ดมันยังกินได้เลย  ยอดกับดอกของมัน ก็เอามาต้มได้  หรือใครจะเอาไปแกงส้ม  เอาไปผัดผักก็อร่อยไปอีกแบบ

ลุงบอกว่าฟักข้าวเป็นสมุนไพร  สมัยก่อนคนเฒ่าคนแก่เอามาใช้เป็นยาดับพิษร้อนถอนพิษไข้ เอาเถา ราก หรือใบ มารักษา เอามาถอนพิษผิดสำแดง ดับพิษไข้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้พิษอักเสบ แก้กษัย แก้พิษฝี แก้ฝีในท้อง แก้ปวดบวม ดูดหัวฝี แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย 

ป้ายังเคยเอามาฆ่าเหาบนหัวเราด้วยจำได้มั้ยลุงถามเราอีก  และลุงก็เล่าต่อว่าป้าเราใช้สระผมแทนแชมพู เอาใบมาตำ  บีบคั้นให้น้ำมันออกมา ใช้ดีกว่ายาสระผมอีก  ส่วนของเมล็ดก็เอาไปใช้เป็นยาทาภายนอก  ย่าจะเอาไปตำผสมกับน้ำมันงาหรือน้ำมันมะพร้าว ใช้รักษาหูด อาการอักเสบบวม กลากเกลื้อน ฝี อาการฟกช้ำ อาการผื่นคันและโรคผิวหนังได้ผลดีมากมาย

แต่ตอนนี้น้ำท่วมอย่าว่าแต่ฟักข้าวเลย  ผัก สมุนไพรทุกอย่าง  ต้นไม้ ดอกไม้ ผลไม้ที่ลุงปลูกเอาไว้ในสวนตายเกลี้ยง  ไม่เหลือแม้แต่จะใช้ทำพันธุ์  ข้าวในนา  ปลาในบ่อ  ทุกอย่างไปกับน้ำหมด  ทุกวันนี้น้ำก็ยังไม่ลด  จะครบสองเดือนแล้วมั้งที่น้ำท่วมขังอยู่แบบนี้

แต่กำลังใจพวกเค้ายังดีอยู่มากมาย  เค้าบอกกับเราว่าน้ำมันจะท่วมใครจะไปห้ามมันได้  แต่เราต้องรู้จักปรับตัว  ปรับความคิด  คิดว่ามันไม่ทุกข์ มันก็หมดทุกข์  คิดให้มันทุกข์มันก็มีทุกข์  อยู่ตรงความคิดนี่แหละ  นิดเดียวเอง  ปัญหามีเอาไว้แก้ไข  แต่ต้องรู้จักวิธีแก้  อย่าเอาปัญหามาไว้ในหัวจนไม่มีเวลาคิดอย่างอื่น  เดี๋ยวจะบ้าตายซะก่อน  

ขอขอบคุณภาพจากแฟ้มภาพกูเกิล

ต้องรู้จักปล่อยวางบ้าง หัดพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส  ดูสิลุงทำงานมาตลอดไม่เคยมีเวลาพักผ่อน  วันนี้น้ำท่วมทำให้มีเวลาพักผ่อนยาวเลยเห็นมั้ย  มีเวลาอยู่กันพร้อมหน้าทั้งครอบครัว มีความสุขไปอีกแบบ  น้ำลดเมื่อไรก็ค่อยว่ากันอีกที  โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอก  มีแต่ความตายนี่แหละมันมาแน่นอน  แล้วแกก็ชวนคุยซะยาวเลย กว่าจะวางสายก็เกือบชั่วโมง

ทำตัวให้เหนือดวง

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

มีใครไม่เคยดูหมอดูมั้ย  เรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง  แกคลั่งหมอดูมากมาย  ถึงขนาดหนีงานไปดูหมอมันก็ทำมาแล้ว  ใครว่าที่ไหนดี  หมอไหนแม่นมันลองหมด  พอไปดูดวง  ถ้าครั้งไหนผลออกมาดี  มันก็เดินยิ้มทั้งวัน  มันจะมั่นใจตัวเองสุดๆ ใครบอกอะไรไม่มีฟังเพราะเชื่อหมอดู


ครั้งไหนไปดูแล้วหมอทัก ว่าต้องเลิกกับแฟน หรือจะมีปัญหาเข้ามา ให้ระวังตัว คุณเอ้ย..มันไม่เป็นตาทำงาน  บ่นว่าเครียดทั้งวัน เพราะมัวไปนึกถึงคำพูดของหมอดู  เครียดเฉยๆก็ช่างมันเหอะ  แต่นี่มันยังวิ่งหาหมอดูคนอื่น  มันบอกจะได้แน่ใจว่าที่หมอคนแรกไม่ได้ดูดวงของมันผิด  เดือนๆหนึ่งหมดเงินค่าดูดวงไปเป็นหมื่น   เราเคยให้มันไปปฏิบัติธรรม มันบอกไม่มีเวลา  เออ...ทีวิ่งหาหมอดูละก็  เวลาเหลือเฟือ


ตอนมันไปดูไม่เท่าไร  ตอนที่ต้องแก้กรรมนี่ดิ๊  เราก็ห้ามไปเหอะ  บอกกับมัน ว่าแกรู้มั้ยว่ากรรมมันแก้ไม่ได้  พูดยังไม่ทันจบประโยค มันย้อนกลับมาทันควัน  มันบอกว่าเรื่องของku เงินku  ตัวku  มรึงมีหน้าที่ให้กำลังใจkuก็พอแระ  ไม่ต้องมาสอน  แป่ว.....เจอแบบนี้คุณจะทำยังไง  ก็ต้องปล่อยมันไปดิ


แต่หมอดูก็ไม่ได้เป็นหมอเดาทุกคน  มีอยู่ครั้งหนึ่งเราพามันไปหาพระ  พอพระท่านเห็นมัน ท่านก็บอกให้มันรู้ตัวว่ากรรมแก้ไม่ได้  ถ้าจะแก้กรรม ต้องแก้ที่การกระทำของตัวมันเอง  พอมันได้ยินมันหันมามองหน้าเราตาเขียว  หาว่ารู้กันกับพระ  อ่าว..ผิดอีกku


แต่มันยังฟังท่านนะ  สงสัยเกรงใจ ท่านบอกถ้าจะให้ท่านดูดวงให้    โยมก็ไปปฏิบัติธรรมซะก่อนหนึ่งเดือน  ถือศีลห้า  นั่งสมาธิ  ไม่ต้องไปทำที่วัดไหนทั้งนั้น  ทำเองที่บ้าน  แล้วท่านก็ถามว่าทำได้มั้ย  ห้ามนินทา  ห้ามพูดมาก  ว่างๆให้อมน้ำไว้อย่าให้ปากมันว่าง  ภาวนาพุทโธทุกลมหายใจเข้าออก  ใครจะพูดอะไรก็ช่างเค้า  ถ้าทำได้ให้กลับมา ถ้าทำไม่ได้อย่ามาให้เห็นหน้ารำคาญ  พูดจบท่านก็เดินหนีเลย  มันหันมาเตรียมจะด่าเรา  เราเลยพูดตัดหน้ามัน  ว่าอย่าด่าkuในวัดนะมรึง  มันเงียบ แต่แอบงอนเล็กน้อย ฮ่าฮ่า


ตอนนั่งมาในรถมันเริ่มบ่น  เราบอกไม่ต้องบ่น มรึงรับปากพระท่านมาว่าไง  ท่องพุทโธไปเลย  ถ้าไม่ทำตกนรกใครก็ช่วยมรึงไม่ได้  โอ้ย..ได้ผลคุณเอ้ย  มันทำตามที่พระท่านบอก  ไม่ได้เพราะเชื่อพระนะ แต่มันอยากกลับไปให้ท่านดูดวงให้  เดือนนั้นทั้งเดือนมันตั้งใจทำงาน ไม่ค่อยคุยกับใคร อมแต่น้ำ  เราซื้อมาให้มันวันละสามขวด ยังไม่ทันเที่ยงน้ำหมด มันชอบลืมตัว  ได้ยินอะไรนิดหน่อย มันจะกลืนน้ำทันทีเตรียมจะด่าเค้า  แต่พอกลืนน้ำลงคอ ก็คงทำให้นึกได้มั้ง  เลยเงียบ แล้วมันก็อมน้ำใหม่

จากคนที่มันเคยอารมณ์ร้อน  บ้าหมอดู  เครียด  นินทา  โวยวาย  โกหก  ปากหมา  มันกลายเป็นคนละคน  ลูกน้องรักมันทุกคน  เดือนหนึ่งผ่านไป มันชวนเรากลับไปหาพระ  ไปถึงพระท่านถามมันว่าเป็นไงบ้าง มันก็เล่าให้ท่านฟัง  ว่ามันไม่เครียด ลูกน้องรักมันแบบไม่เคยเป็นมาก่อน มันเองก็สบายใจ  หายเครียด เพราะไม่มีเวลาคิดอย่างอื่นท่องแต่พุทโธ อะไรที่เคยเห็นว่ายาก ก็ผ่านมันไปได้หมด  

ขอบคุณภาพจากแฟ้มภาพกูเกิล

พระท่านบอก  ถ้างั้นก็กลับไปเหอะ  ไม่ต้องให้พระดูดวงโยมแล้ว  เพราะถ้าโยมทำได้แบบนี้ตลอดไป  โยมก็จะอยู่เหนือดวง  จำไว้นะว่าอย่าให้ใครมากำหนดชีวิตโยมอีก  กรรมที่โยมทำไปแล้ว มันแก้ไขไม่ได้  แต่โยมทำความดีเพื่อหนีกรรมชั่วได้ โดยการที่โยมต้องละ จากการทำบาปทั้งปวง ถือศีล นั่งสมาธิ เจริญภาวนา  ตลอดชีวิต  แล้วแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรทุกครั้ง  แค่นี้ชีวิตโยมที่เหลืออยู่ ก็จะมีแต่ความสุข ความสงบ  เพราะธรรมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม  

ใครไม่เชื่อลองทำตามดิ

กำจัดกลิ่นบุหรี่

บ้านเราไม่มีใครสูบบุหรี่  แต่เวลามีเพื่อนๆสามีมากินข้าวที่บ้านเมื่อไร  เค้าจะสูบบุหรี่กันในบ้าน  บางคนเกรงใจออกไปสูบตรงระเบียง แต่กลิ่นมันก็เข้ามาอยู่ดี  เราเคยใช้มาทุกวิธีทั้งเอาน้ำส้มสายชูไปวางไว้  กลิ่นบุหรีหายแต่ได้กลิ่นน้ำส้มสายชูแทน 

ขอบคุณภาพจากแฟ้มภาพกูเกิล

จนกระทั้งลองเอาน้ำส้มสายชูต้มในน้ำเดือดๆ  เทลงไปน้ำส้มครึ่งน้ำครึ่ง  ตั้งไฟทิ้งไว้ให้เดือดแบบนั้นแหละ  ระวังอย่าให้น้ำแห้ง  ปิดหน้าต่างในบ้านให้หมด อะไรที่มีกลิ่นบุหรี่เอามาวางรวมไว้  ทำซ้ำกับสองครั้ง  

อย่าว่าแต่กลิ่นบุหรี่เลย  กลิ่นอาหาร  กลิ่นอับ  กลิ่นอาหารสัตว์  หายหมด  เราเคยทำตอนหลนน้ำปลาร้า  แบบว่ากลัวข้างบ้านเค้าด่าก็ยังได้ผลเลย  พอกลิ่นหายก็เปิดหน้าต่างระบายอากาศ   หายหมดทุกกลิ่น  ไม่มีแม้แต่กลิ่นน้ำส้มสายชู แล้วเอาน้ำเดือดๆจากการต้มน้ำส้มสายชูไปเทลงโถส้วม ดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีสุดๆ 

ชีวิตของ sdf

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยเราที่มีคนไร้บ้าน  ที่ฝรั่งเศสก็มีเหมือนกัน   มีเยอะซะด้วย ที่นี่เค้าเรียกคนกลุ่มนี้ว่า  sdf กลางคืนจะนอนตามใต้สะพาน  ในป่า ในสนามบิน หน้าสถานนีรถไฟ  ตรงป้ายรถ  บนทางเท้า บนฝาท่อ และตามที่ต่างๆที่เค้าไปนอนแล้วไม่ค่อยมีคนมาไล่

เราขอยกตัวอย่างที่สนามบิน cdg ละกัน นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารทั่วไปจะมองไม่ออกถ้าเจอ sdf ที่สนามบิน  เพราะพวกเค้าจะแต่งตัวดีมาก  และมีกระเป๋าเดินทางเหมือนกับผู้โดยสารทั่วไป  มีทั้งคนฝรั่งเศส  คนเอเซีย  และคนอังกฤษ อเมริกา  แขก  และแอฟริกา  ทั้งหนุ่มสาว คนสูงอายุ  อย่าถามนะว่าเรารู้ได้ไร  ถ้าไม่รู้ไม่กล้าเขียน  และรู้ดีซะด้วย  

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

เราเข้าไปคุยกับพวกเค้าบ่อยมาก  ให้ความช่วยเหลือไปก็เยอะ  เวลาบอกอะไรพวกเค้าบางคนจะฟังและทำตาม  แต่บางคนนอกจากไม่ฟังแล้วยังหาเรื่องเรากลับมาด้วย  ขอบอกว่าถ้าคุณมีเรื่องกับ sdf ไม่ต้องเสียเวลาไปแจ้งความ เพราะตำรวจทำอะไรไม่ได้  

พอแจ้งความตำรวจก็มาเอาตัวเค้าออกไปให้พ้นตัวอาคารผู้โดยสาร  แล้วตำรวจก็ไป  พอตำรวจไปเค้าก็เดินไปเข้าอีกด้านหนึ่ง แล้วกลับมาหาเรื่องใหม่  ถ้าคุณไม่อยากมีเรื่องกับคนพวกนี้มีวิธีเดียวคือเงียบและเดินต่อไป  ห้ามมอง และอย่าไปพูดกับพวกเค้าเพราะเค้าจะตามคุณไม่เลิก

มูลนิธิเข้ามาให้ความช่วยเหลือบ่อยมาก  แต่พวกเค้าไม่รับความช่วยเหลือง่ายๆ  ถ้าไม่เชื่อใจกันจริงๆ  เค้าเคยบอกเราว่าเค้าช่วยตัวเองได้  อยู่แบบนี้มีอิสรภาพดีกว่าไปอยู่ที่มูลนิธิ  มี sdf อยู่คนหนึ่งอายุมากแล้ว  เราเข้าไปนั่งคุยด้วย  ต้องไปตอนเค้าไม่เมา  เพราะตอนเวลาแกเมา แกด่าไม่เลือกหน้า ตำรวจ แอร์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิ หรือแม้แต่ ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมายังโดนหมด  หมายังโดนเลย

ช่วงแรกๆเค้าไม่ยอมคุยกับเรา  แต่ไม่ด่า  ยืนมองหน้าแล้วเดินหนี  เค้าคงรำคาญเราอ่ะ  เราก็หน้าด้าน  เค้ายิ่งหนีเรายิ่งเข้าไป  เราเข้าไปทีไรจะมีของกินติดไปทุกครั้ง  ให้เค้ารู้ไงว่ามาดี  วันไหนหาของกินไม่ทันก็แวะซื้อน้ำแถวนั้นแหละ พอเห็นเราบ่อยๆ  เค้าเริ่มรับความช่วยเหลือจากเรา  เริ่มไว้ใจ  และก็เริ่มพูดคุยด้วยมากขึ้น  

เค้าเล่าว่าตัวเค้ามีครอบครัว  เคยมีงานทำตำแหน่งใหญ่โต มีบ้าน มีเงินใช้มากมาย พูดเสร็จก็เอาหนังสือเดินทางออกมาโชว์  เราหยิบมาดูก็จริงอย่างเค้าพูด  หนังสือเดินทางสภาพเก่ามากเพราะรักษาไม่ดี  มีการเดินทางเข้าออกไปหลายประเทศมากมาย  แล้วเค้าก็เอารูปลูกมาให้ดู  เห็นหน้าไม่ชัดเพราะสภาพรูปยับเหมือนโดนขยำ  

เค้าเล่าต่อ ว่าแต่มีก็เหมือนไม่มี  มีครอบครัวก็เหมือนไม่ใช่ครอบครัว  เวลามีเงินเพื่อนฝูงมากมาย ไปไหนใครก็รู้จักหมด  ลูกน้องเดินตามคอยเปิดปิดประตูให้  แต่เวลามีปัญหาขึ้นมา  เค้าถึงรู้ว่าที่จริงเค้าไม่มีใครเลย  ไม่มีแม้แต่ลูกเมีย แล้วเค้าก็เงียบไป นานมากๆ เราคิดว่าเค้าคงไม่อยากคุยแล้ว


พอเราจะเดินออกมา เค้าก็บอกว่าเดี๋ยว  มาชวนคุยแล้วจะมาหนีเดี๋ยวด่าซะเลย  อย่าเพิ่งไป นานๆจะมีคนมาให้เค้าระบายความเครียดสักที  พูดเสร็จก็หัวเราะ  เค้าเล่าต่อว่าพอไม่กลับบ้าน เค้าก็แร่ร่อนไปเรื่อยๆ  มีถังขยะเป็นครัว  เมื่อก่อนนอนตามตู้รถไฟที่เค้าจอดพักรถที่สถานีใหญ่  ต่อมานอนไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่ปิดประตูรถหมด เค้าเริ่มเปลี่ยนมาเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน  แต่ก็อยู่ได้เฉพาะตอนที่เปิดทำการ  กลางคืนนอนไม่ได้มีเจ้าหน้าที่คอยไล่


จากสถานีก็เริ่มแร่ร่อนไปนอนในป่า  ก็อยู่ไม่ได้นานอีก ตำรวจคอยกวน มาได้สนามบินนี่แหละสบายเค้าเลยยึดที่นี่เป็นบ้าน  เราถามว่าแล้วแผลไปโดนอะไรมา  ตอนนั้นเค้ามีแผลบนหน้าผาก  เค้าบอกเราว่าเรื่องปกติ แย่งของกิน แย่งที่นอนกันกับเจ้าถิ่นที่เค้ามาอยู่ก่อน  

พอพูดถึงตรงนี้เค้าโชว์แผลเป็นที่แขนที่ขาให้เราดู โอ้โห...แม่เจ้า  เยอะมากมาย  บางแผลยังสดๆอยู่เลย  บางที่แผลเริ่มเน่า เห็นแล้วพูดไม่ออก   แต่เค้าเห็นเราทำหน้าเสีย  เค้ากลับหัวเราะชอบใจใหญ่  บอกกับเราว่าเค้าเป็นคนเจ็บยังไม่บ่นเลย  เออ..ก็จริง  

เราเลยถามว่าทำไมต้องด่าคนที่เดินผ่านไปมา  เค้าบอกอ่านสายตาคนพวกนี้ออก  บางคนเดินผ่านมามองแล้วว่าเค้าก่อน ว่าเป็นพวกเหลือขอ จรจัด บางคนมากับลูกหลาน  พอเด็กมองเค้าพ่อแม่ก็รีบจับหน้าเด็กหนี  แถมบอกเด็กๆว่าอย่าไปมองพวกคนสกปรก  เค้าเลยด่ามันซะ  เราก้อ งง  ว่านักท่องเที่ยวไม่ได้มีแต่คนฝรั่งเศส  เค้ารู้ได้ไงว่าคนอื่นด่าเค้า  

พอถามเค้าบอกว่าเค้าไม่ได้โง่  น่าน...ไม่น่าถามเลยku  หาเรื่องโดนด่าซะแล้วมั้ยละ  เค้าก็เล่าต่อว่าเค้าพูดได้หลายภาษา  แถมกลัวเราไม่เชื่อ งัดหลักฐานมาให้ดู เป็นบัตรประจำตัวราชการ  แต่หมดอายุไปนานมากแล้ว

คุยกับคนพวกนี้ได้ความรู้อะไรมากมาย  พวกเค้าบางคนเป็นถึงนายช่างใหญ่  บางคนพูดได้หลายภาษา แต่พอเจอปัญหาชีวิตมากๆ  ก็ไปไม่เป็น กลับละทิ้งทุกอย่างเพื่อหนีความจริง  คนเอเซียคนหนึ่งไม่ขอเอ่ยชื่อประเทศนะเดี๋ยวบล็อกโดนสอย เอาเป็นว่าเค้าเป็นคนเอเซียละกัน  เค้าพูดฝรั่งเศสไม่ได้ 

ต้องพูดภาษาอังกฤษ เค้าชอบมาขอให้เราเลี้ยงกาแฟ  เจอหน้าเป็นขอ  พอเราเลี้ยงกาแฟคราวนี้ขอไวน์แดง มีเลือกยี่ห้ออีก ปัดโธ่... ไม่เห็นใจคนจ่ายเงินเล้ยพ่อคุณเอ้ย   พอชวนคุยด้วยแกเดินหนีเฉยเลย  เป็นแบบนี้อยู่หลายปี

พอเค้าเริ่มไว้ใจเรา  คราวนี้เค้าไม่ขอไวน์เหมือนเดิมแล้ว  เค้าเริ่มเอาเงินของเค้าออกมาให้ดู ว่าเค้าก็มีเงินซื้อกินเหมือนกัน  แต่จะเก็บไว้เดินทาง  หลายครั้งที่เค้าพยายามถาม ว่าที่ไหนมีร้านอาหารเอเซียที่รับคนแบบเค้ามั้ย เค้าจะไปของานทำที่นั่น  เค้าไม่อยากถูกส่งกลับประเทศเค้า   

sdf ที่เป็นผู้หญิงก็มีเยอะมาก  มีทั้งที่ติดเหล้าและพวกที่รักสวยรักงาม  คนส่วนใหญ่จะมองคนพวกนี้แบบดูถูก  ไม่มีใครอยากเข้าไปคุยกับพวกเค้า  เพราะเข้าไปทีไรโดนด่ามาทุกที  บางคนเดินผ่านเฉยๆยังโดนเลย  ตำรวจ กับแอร์นี่โดนบ่อย  โดนจนชินว่างั้นเหอะ  

เราถามเค้าว่าเวลาที่สนามบินปิด  นอนตรงไหน เพราะเดียวนี้เค้าจะปิดประตูสนามบินเวลาเครื่องขึ้นลงหมดแล้ว  เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารที่ตกค้าง  แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะน่ะ  พวกเค้ารู้เวลาอยู่แล้วว่าปิดเปิดตอนไหน  ต้องทำตัวอย่างไรถึงจะไม่เดือดร้อน  หลายคนลงไปชั้นใต้ดิน  ถึงอากาศจะเย็น  แต่ก็ยังดีกว่าไปนอนนอกสนามบิน

เรายังเคยตามลงไปดูที่นอนของพวกเค้าเลย  ข้างถังขยะชั้นใต้ดิน  นอนเรียงกันเป็นแถว  บางกลุ่มนอนตามซอกตึก  อันนี้สำหรับคนที่แสดงตัวออกมาชัดเจนว่าเป็น sdf  เค้าจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ  มีหัวหน้ากลุ่ม

ขอบคุณภาพประกอบจากแฟ้มภาพกูเกิล

แต่คนไหนที่ไม่อยากแสดงตัว  และไม่อยากยุ่งกับใคร เค้าจะแต่งตัวดี จะนอนตามอาคารโดยสาร อยู่ปนกับผู้โดยสาร  พวกกลุ่มนี้เค้าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร  อยู่แบบเงียบๆ ไม่พูดกับใครทั้งนั้น เพราะรู้ดีว่าถ้ามีปัญหาเค้าจะนอนตรงนี้ไม่ได้ เมื่อไม่สร้างปัญหาเจ้าหน้าที่เค้าก็ไม่เข้ามายุ่ง แต่ไม่ใช่ไม่สนใจ เจ้าหน้าที่คนที่ดูแลเรื่องนี้  จะจำหน้า sdf ได้หมดทุกคน  ต่อให้มีหน้าใหม่มาก็เหอะ ใช้เวลาสองสามวันก็ดูออก   จบแค่นี้ดีกว่า เมื่อยแระ  ยิ่งเขียนยิ่งยาว เรื่องเล่ามันเยอะ  เดี๋ยวคนอ่านบ่น  ไปแระ